อย่างที่ทราบกัน  อังกฤษมีการทำประชามติให้คนทั้งประเทศโหวตว่าจะอยู่ในสหภาพยุโรปต่อหรือจะออก  แล้วปรากฎว่าผลคือออก  เท่านั้นแหละกลายเป็นข่าวใหญ่โตมีคนพูดถึงมากมาย  วันนี้เรามาพูดกันให้เห็นภาพว่าสาเหตุที่เค้ากลัวกันว่ามันจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก  เป็นเพราะอะไร

ประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกกลัวจริงๆไม่ได้อยู่ที่ตัวประเทศอังกฤษ  สิ่งที่เค้ากลัวจริงๆคือถ้าประเทศต่างๆในสหภาพยุโรปเริ่มแยกตัวออกจากกันตามแบบอย่างประเทศอังกฤษ  แล้วอาจจะเริ่มดำเนินนโยบายปกป้องเศรษฐกิจประเทศตัวเอง  กีดกันการค้าจากประเทศอื่นด้วยการตั้งกำแพงภาษี  ปิดพรมแดนไม่อนุญาตให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยเสรี  และผลคือทำให้เศรษฐกิจของโลกแย่ลง

โอเคคำถามประมาณนี้ผมก็เจอบ่อยอยู่เหมือนกัน  แล้วมันจะตกไปอีกมั้ย  ซื้อได้ยัง  ซื้อแล้วจะขึ้นมั้ย  บางท่านถึงกับโทรมาถามความเห็นเป็นรายตัวเลยทีเดียว  บางทีการที่หุ้นตกแล้วจะตัดสินใจว่าซื้อดีมั้ยนี่ก็เครียดเอาเรื่องเหมือนกัน  ผมเข้าใจดีเพราะผมก็เป็นครับ  วันนี้เลยอยากจะให้แนวทางการตัดสินใจสไตล์ผมเอาไว้  เผื่อถ้าท่านผู้อ่านไม่รู้จะไปถามใครได้ลองอ่านดู  แล้วถ้าคุณอ่านแล้วชอบคุณก็ตัดสินใจไปตามนี้จะได้ไม่ต้องเครียด  เริ่มต้นจากทำใจนิ่งๆสงบสติอารมณ์ก่อน  การตัดสินใจผิดพลาดส่วนใหญ่มาจากการแห่ตามอารมรณ์เหนือเหตุผลนี่แหละครับ  จากนั้นเริ่มพิจารณาไปตามขั้นตอนนี้เลย

นั่นน่ะสิ  ทำยังไงดีใช่มั้ยครับ  ช่วงนี้พอดีมีคนถามเรื่องนี้เยอะเหมือนกัน  ผมก็เลยอยากจะตอบไว้บนนี้เลยเผื่อบางท่านที่ไม่รู้จะไปถามใครได้อ่านเก็บไปคิดดูครับ

อย่างแรกผมแนะนำให้ท่านใจเย็น  ตั้งสติก่อนครับ  อย่าเพิ่งตัดสินใจรีบซื้อหรือรีบขายอะไรทั้งนั้นครับ  ความผิดพลาดส่วนใหญ่มักจะเกิดเวลาเราไปตื่นเต้นตกใจอารมณ์พาไปตามตลาดแบบนี้ล่ะครับ

เรามาค่อยๆพิจารณาไปทีละเรื่อง  ปกติพวกเราจะงงสรุปได้อยู่ 2 เรื่องครับ 

PTTEP 

PTT Exploration and Production Public Company Limited

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

บริษัทเป็นนี้เป็นใคร  ทำอะไร ??

                บริษัทนี้ชื่อก็บอกอยู่ครับ  เป็นหนึ่งในบริษัทลูกเครือ  ปตท.  มีผู้ถือหุ้นหลักในกิจการคือ  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  ซึ่งถือหุ้นอยู่ 65.29% ตามข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์  บริษัททำกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม  ว่าง่ายๆคือไปทำการสำรวจหาแหล่งปิโตรเลียม  ปิโตรเลียมในที่นี้หลักๆคือน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ  จากนั้นก็ดำเนินการขุดต่อท่อนำขึ้นมาขายในรูปดิบ  ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกลั่นน้ำมันหรือขั้นตอนแยกก๊าซหรืออื่นๆ  ดังนั้นกำไรจะมากจากส่วนต่างของราคาขายกับต้นทุนในการสำรวจและผลิต

ถ้าถามว่าหลุมพรางดักเงินของนักลงทุนหลุมใหญ่ที่สุดคือเรื่องอะไร ส่วนตัวผมว่ามันคือหลุมนี้เลยครับ มันคือการเล่นพนันเก็งกำไรเดาสุ่มทิศทางหุ้นครับ หลุมพรางหลุมนี้น่ากลัวมากเลยนะ คือมันไม่ใช่มิจฉาชีพมาหลอกลวงคุณหรืออะไรด้วย แต่มันเป็นความเคยชินและเป็นพฤติกรรมหมู่ที่หลบรอดกันยากมาก สาเหตุที่มีคนตกหลุมพรางนี้กันเยอะเป็นเพราะมันดูเหมือนกับว่าทุกคนเค้าก็ทำกันจนกลายเป็นเรื่องปกติไปครับ เผลอหลุดเข้าไปนี่วนอยู่นาน บางคนไม่รอดออกมาด้วยครับ เสียเงินเสียเวลาเสียสติ

หลายคนอ่านหัวข้อแล้วอาจจะรู้สึกงงๆ  ว่าเออแล้วทำไมกูถึงจะมาอ่านวิธีเสียเงินด้วยวะบ้าหรือเปล่า  แล้วอยู่ๆทำไมกูจะเอาเงินไปให้คนอื่น  ผมอยากจะบอกท่านแบบนี้ว่า  แน่นอนปกติเราก็ไม่เอาเงินไปให้คนอื่นโง่ๆหรอกครับ  แต่ปัญหาคือโจรสมัยนี้เค้าไม่ได้มาโง่ๆน่ะสิ  เค้าจะมาหลอกเอาเงินของคุณไปนี่เค้ามีเทคนิคแพรวพราวมากนะ  ไม่ได้มาจี้ปล้นบังคับอะไรด้วย  อยากให้คุณรู้เอาไว้เลยว่ากลุ่มคนที่โดนหลอกก็ไม่ได้ว่าไม่มีการศึกษาด้วยนะ  หลายๆคนก็เหมือนผมกับคุณนี่แหละ  ดังนั้นตราบใดที่เราขาดความเข้าใจรู้ไม่ทัน  พวกเราวันนึงอาจเดินเอาเงินไปให้เค้าเองเลยนะ  วันนี้ผมเลยมาเขียนบทความอธิบายลักษณะสำคัญของการต้มตุ๋น  และให้ความรู้เพิ่มเติมว่าการลงทุนโดยปกติแล้วมันมีธรรมชาติของผลตอบแทนแบบไหน  คุณจะได้ไหวตัวทันถ้ามันเกิดขึ้นกับคุณ

นั่นน่ะสิ  แล้วทำไมต้องเป็นหุ้นเนอะ  เคยมีคนถามผมว่าคุณเป้งไม่ลงทุนในอย่างอื่นบ้างเลยเหรอ  ทำไมถึงลงทุนในหุ้นอย่างเดียวล่ะ  จริงๆเหตุผลหลักคือผมมีพื้นฐานมาทางด้านนี้  และโดยส่วนตัวสามารถทำความเข้าใจหุ้นได้ดีกว่าการลงทุนประเภทอื่นก็เลยเลือกที่จะลงทุนในหุ้นครับ  แต่โอเคสมมติว่าเราตัดความชอบส่วนตัวออกไป  การลงทุนในหุ้นได้เปรียบอย่างแรกเลยคือมันเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ไว้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อครับ  ทีนี้ผมจะให้เหตุผลว่าทำไมผมถึงเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้น  เผื่อคนที่ยังไม่เข้าใจว่าเงินเฟ้อคืออะไร  ผมแนะนำให้ไปอ่านบทความอันนี้ครับ  อธิบายได้เข้าใจง่ายดีมาก 

จากตอนที่แล้วผมพยายามจะสื่อว่า  คนที่คาดเดาผลประกอบการของบริษัทได้แม่นยำกว่าเป็นผู้ชนะ  เพราะผลประกอบการของบริษัทเป็นปัจจัยที่กำหนดราคาหุ้นที่สำคัญที่สุดใช่มั้ยครับ  แต่แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะให้ทำได้ดีกว่าคนอื่น  ในเมื่อพวกเราส่วนใหญ่ก็ได้รับข้อมูลเหมือนๆกัน

1. ไปอ่านรายงานประจำปี

มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่เราจะคาดการณ์ได้แม่นยำถ้าเราไม่รู้อะไรเลย  ดังนั้นอย่างแรกที่ต้องทำคือโหลดรายงานประจำปีของบริษัทมาอ่านครับ  อย่างน้อยเราต้องเข้าใจจริงๆว่าบริษัททำอะไรกันแน่  รายได้มาจากเรื่องอะไรบ้าง  ข้อดีคือคนส่วนใหญ่เค้าไม่ได้อ่านด้วยนะ  ดังนั้นเราได้เปรียบแน่นอน

จากตอนที่แล้วเรารู้ละว่าตลาดหุ้นเป็นตลาดที่คนแข่งขันกัน  คนที่แม่นยำกว่าได้เปรียบคนแม่นยำน้อยกว่าเสมอ  เรื่องต่อไปที่เราต้องรู้คืออะไรส่งผลต่อทัศนคติของคนที่ซื้อขายอยู่ในตลาดเป็นเหตุให้ราคามีการเปลี่ยนแปลง  และอะไรกันแน่ที่สุดท้ายเป็นตัวกำหนดว่าหุ้นจะราคาขึ้นหรือลง

ปกติปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติคนซื้อขายแล้วทำให้ราคาขึ้นหรือลงก็มีหลากหลายใช่มั้ยครับ  อาจจะเป็นอัตราดอกเบี้ย  ความคิดเห็นของนักลงทุนที่มีชื่อเสียง  ความไม่สงบทางการเมือง  ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ  ข่าวเศรษฐกิจไทย  ราคาน้ำมัน ฯลฯ

เมื่อเรารู้แล้วว่าตลาดหุ้นเป็นตลาดที่ไว้ซื้อขายความเป็นเจ้าของกิจการ  ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในตลาดก็เกิดจากการมีคนอยากซื้อหรือขายหุ้นที่ราคาต่างๆ  มันเป็นเหมือนผลรวมของทัศนคติของทุกคนที่มีต่อหุ้นแต่ละตัว  เพราะในทุกๆราคาที่มีการซื้อขายจะต้องมีทั้งคนที่ต้องการขายและคนที่ต้องการซื้อที่ราคานั้น  นั่นหมายความว่า  ตลาดหุ้นเป็นตลาดที่จะต้องมีคนหนึ่งได้เปรียบและคนหนึ่งเสียเปรียบ