ทำไมผมไม่นิยมสายเพ่งกราฟ  ตอบกันด้วยตรรกะก่อน       

Why I Say No To Technical Analysis (Part 1/4)

Why i say no to technical analysis

คนมักจะโทรมาถามเวลาผมจัดสัมมนาว่าผมสอนดูกราฟหรือเปล่า  และผมตอบเหมือนเดิมทุกครั้งว่าไม่  ผมจะบอกเค้าไปว่าวิธีการที่ผมเชื่อและใช้มาตลอดเกือบสิบปีนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับกราฟเลย  และบางคนก็จะถามคำถามที่ดีมากต่อนั่นคือเค้าจะถามผมว่าทำไม  เป็นคำถามสำคัญเลยแหละ  ผมเห็นด้วยเลยว่าเวลาคนจะเชื่อหรือไม่เชื่ออะไรมันต้องมีเหตุผล  เพียงแต่โดยปกติตอบทางโทรศัพท์มันยาก  เลยเรียบเรียงมาเขียนตอบให้มันชัดเจนไปเลยว่า  ทำไมผมไม่นิยมสายเพ่งกราฟ

                ประเด็นแรกเลย  คือผมมาพบว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิค  พื้นฐานความเชื่อคือ  ความพยายามจะคาดเดาพฤติกรรมของมนุษย์

ลองดูแต่ละอย่างที่สายเทคนิคเค้าให้ความสนใจกัน  ไม่ว่าจะเป็นราคา (Price), ปริมาณการซื้อขาย (Volume), ราคาปิดเปิดสูงสุดต่ำสุด (Open Close High Low)  เรื่องพวกนี้สังเกตว่ามันจะไม่เกี่ยวกับกิจการทำธุรกิจอะไร  เผลอๆเห็นเป็นตัวย่อภาษาอังกฤษ  ไม่สนใจทั้งสิ้นว่ากิจการปีนี้ทำได้ดีขึ้นหรือแย่ลง  สิ่งที่ให้ความสำคัญคือช่วงที่ผ่านมา  มีคนซื้อหุ้นนี้เยอะหรือน้อยแค่ไหนเท่านั้น

เรื่องนี้เป็นเหตุผลหลักเลยที่ทำให้ผมท้ายที่สุดแล้วไม่เชื่อสายเทคนิค  ผมไม่เชื่อว่ามันจะมีคณิตศาสตร์หรือสูตรคำนวณอะไรที่ทำนายได้ว่าพรุ่งนี้คนจะทำอะไร

ยกตัวอย่างไอเดียที่บอกเส้นค่าเฉลี่ยราคา 7 วัน วิ่งขึ้นตัดกับเส้นค่าเฉลี่ยราคา 14 วัน  แปลว่าวันพรุ่งนี้คนจะอยากซื้อหุ้นนี้แล้วราคาจะขึ้น  ผมว่าฟังดูไม่มีเหตุผลเลย  เส้นค่าเฉลี่ยราคา 7 วัน วิ่งขึ้นตัดกับเส้นค่าเฉลี่ยราคา 14 วัน  มันก็แค่บอกว่า 7 วันที่ผ่านมาราคาหุ้นนี้ขึ้นเร็วกว่าช่วง 14 วันที่ผ่านมา  มันบอกได้แม่นยำมากแต่เรื่อง “ที่ผ่านมา” เท่านั้น  การที่เราสรุปว่า “โอ้โห  ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคนนิยมหุ้นนี้มากขึ้นนะเนี่ย  สัปดาห์นี้คนต้องนิยมหุ้นนี้มากขึ้นไปอีกแน่เลย”  ผมว่ามันเป็นการสรุปอะไรที่ตลกมาก

จากตัวอย่างข้างบน  ถ้าถามสายเทคนิคว่าวันต่อไปจะเป็นยังไง  เค้าก็บอกว่ามันน่าจะขึ้นนะ  แต่อย่าลืมตั้ง Stop Loss ด้วยล่ะ  ฟังสายเทคนิคคนไหนเค้าก็จะเน้นจุด Stop Loss มากเหลือเกิน  ทำไมต้องตั้ง Stop Loss น่ะเหรอ  ก็เพราะโอกาสเดาผิดมันเยอะเหลือเกินไง  ผมถามจริงถ้าวิธีมันเดาถูกเป็นส่วนใหญ่มันจะต้องมีเหรอครับ Stop Loss  ดูเหมือนโอกาสเดาผิดกับถูกมันก็ 50-50 น่ะแหละครับ

พออธิบายตามนี้ไป  ผมก็มักจะเจอคนทักขึ้นมาว่า  “แต่การวิเคราะห์ทางเทคนิคมันเป็นการดูเทรนด์นี่  มันเป็นวิชาสถิตินะ  มันน่าจะเชื่อถือได้นะ”

ผมจะมาตอบประเด็นนี้ในตอนต่อไป