เปลี่ยนเรื่องจากหุ้นอย่างเดียวกันบ้าง วันนี้ผมจะเริ่มเขียนซีรี่ส์บทความเกี่ยวกับการพัฒนาสถานะทางการเงินโดยรวม โดยหัวข้อแรกสุดเลยคือเริ่มจากเราต้องรู้ตัวเองก่อนว่าสถานะทางการเงินเราอยู่ตรงไหน และเราคอยติดตามมันได้อย่างไร
ไอเดียมันคล้ายกับเราสมัยเด็กน่ะครับ ตอนเราถูกสอนให้ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย แล้วสรุปเงินที่มีว่าเรามีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่กันแน่
พอโตแล้วชีวิตทางการเงินเราซับซ้อนขึ้นกว่านั้นเยอะ เราไม่ได้มีแค่บัญชีธนาคารเดียวแล้ว เรามีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนรวม, บัญชีเงินฝาก, เงินกู้บ้าน, ฯลฯ เปรียบเทียบกับสมัยเราเด็กๆ เราไม่สามารถบอกได้เป๊ะๆเป็นหน่วยสตางค์แล้วว่าในเวลานี้สรุปเรามีทรัพย์สินอยู่เท่าไหร่กันแน่ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องรู้ขนาดนั้นด้วย
แต่ถึงยังไงเราก็ยังควรเช็คทรัพย์สินสุทธิของเราคร่าวๆเป็นระยะ ตัวเลขทรัพย์สินรวมลบด้วยหนี้สินรวมตัวนี้ มันเป็นเครื่องบอกสุขภาพฐานะทางการเงินของตัวเราหรือครอบครัวได้ มันบอกได้ว่าเรากำลังมีหนี้สินเยอะเกินความสามารถในการออมเราหรือเปล่า หรือว่าทรัพย์สินเราไปกองอยู่ในทรัพย์สินประเภทใดประเภทหนึ่งเยอะเกินไปมั้ย มันทำให้เราเห็นภาพรวมได้ชัดเจนขึ้น
ส่วนตัวผมใช้ worksheet ที่ได้จากเวป Morningstar ซึ่งดูง่ายดี แต่จริงๆแล้วคือใครจะทำบน excel บนคอมตัวเองก็ได้ไม่ได้ต้องมีอะไรเยอะแยะ worksheet ของ Morningstar โหลดได้ด้วยลิงค์นี้ https://drive.google.com/open?id=0B4XyqG1tPEfibGtFRF9lT1IzbWs
แล้วทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
-
บันทึกทรัพย์สินที่มีก่อน
พยายามหาตัวเลขตามที่อยู่ใน worksheet เริ่มจากการเอาข้อมูลล่าสุดที่มีเกี่ยวกับบัญชีธนาคารล่าสุด และพวกกองทุนที่เราลงทุนต่างๆมาก่อน พวกนี้ส่วนใหญ่เราจะหาได้ออนไลน์และข้อมูลจะเป็นปัจจุบันมาก ส่วนทรัพย์สินอย่างบ้านหรือรถ อันนี้ก็ยากหน่อยละเพราะไม่มีใครรู้แน่ชัด รถน่าจะหาออนไลน์ได้คร่าวๆจากรุ่นรถและอายุว่าเค้าขายมือสองกันอยู่เท่าไหร่ ส่วนบ้านก็คงต้องพยายามเดาเอา อาจต้องไปพยายามหาเวปที่คนประกาศขายบ้านแล้วหาที่พื้นที่คล้ายกันกะเราเอาครับ
-
บันทึกหนี้สิน
บันทึกหนี้สินต่างๆที่มี ตัวหลักเช่น
- เงินกู้ซื้อบ้านที่ยังเหลืออยู่
- เงินกู้ซื้อรถ
- บัตรเครดิต
-
คำนวณดูว่าเรามีทรัพย์สินสุทธิ
คำนวณโดยการรวมทรัพย์สินที่มีทั้งหมด แล้วลบออกด้วยหนี้สินที่มีทั้งหมด พิจารณา
- ทรัพย์สินสุทธิเราเป็นบวกใช่มั้ย ไม่ใช่ติดลบตัวแดงหรือน้อยมากจนเกือบจะไม่มี ถ้าติดลบหรือเป็นบวกน้อย เราต้องเริ่มคิดต่อแล้วล่ะ ไว้มาคุยต่อในบทความต่อไป
- ทรัพย์สินสุทธิเราเป็นบวกเยอะเลยมั้ย ถ้าใช่อย่าเพิ่งสบายใจเกินไป ช่วงที่ผ่านมาหุ้นไทยขึ้นมาเยอะมาก อาจจะทำให้พอร์ตเงินลงทุนเราดูเยอะช่วงนี้ ลองนึกเผื่อว่ามูลค่าเงินลงทุนในหุ้นหรือกองทุนหุ้นตกซัก 20% ดูว่าทรัพย์สินสุทธิยังเป็นบวกเยอะอยู่มั้ย
- ลองเทียบกับปีที่แล้วดูว่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นหรือเปล่า
- ลองดูว่าหนี้สินเราเพิ่มขึ้นหรือน้อยลงจากปีที่แล้ว
- ทรัพย์สินเราไปกองอยู่ในทรัพย์สินประเภทเดียวกันเยอะเกินไปหรือเปล่า ถ้าไปกองอยู่ในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือกองทุนตราสารหนี้อันนี้ยังไม่ค่อยซีเรียส แต่ถ้าไปอยู่ในที่ดินอสังหาริมทรัพย์หรือในหุ้นตัวเดียว โดยเฉพาะทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องต่ำ อันนี้ต้องพึงระวังว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นแผนการเงินเราอาจจะพังได้
- มีประกันในทรัพย์สินและตัวเราหรือยัง อย่างประกันบ้าน, รถ, ชีวิต, พิการ ควรมีไว้บ้าง
- มีเงินสดหรือเงินฝากธนาคาร เพียงพอสำหรับอยู่รอดซัก 6 เดือนในกรณีที่ตกงานมั้ย
- ถ้าเกษียณแล้ว ตอนนี้มีเงินสดหรือเงินฝากเพียงพอสำหรับอย่างน้อย 2 ปีมั้ย
- หรือถ้ากำลังใกล้จะเกษียณ ทรัพย์สินเราเพียงพอสำหรับการเกษียณแล้วหรือยัง
วันนี้เราเอาเท่านี้ก่อน เราเริ่มจากรู้ตัวเองว่าอยู่ตรงไหนแล้ว มีทรัพย์สินมากพอให้สบายใจหรือยัง เดี๋ยวไว้วันหลังมาต่อเรื่องอื่นต่อไป