มีคนไปวิจัยเก็บข้อมูลผลการลงทุนวิธีนี้อย่างจริงจังหรือไม่

Why I Say No To Technical Analysis (Part 3/4)

Do no buy when stock price keeps going up

จริงๆเป็นคำถามที่ดีมาก  เพราะจนป่านนี้มันน่าจะมีนักสถิติหรือใครไปเก็บข้อมูลมาทำสรุปได้แล้วนะ  แต่เท่าที่พยายามหาอ่านดูก็ไม่ค่อยเจอ  ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็นเก็บข้อมูลช่วงสั้นๆซะมากกว่า  ซึ่งพอมันเป็นช่วงสั้นเกินไปมันก็สรุปยากว่าได้ผลหรือไม่ได้ผล  ที่ผมหาเจอว่าเก็บข้อมูลช่วงเวลานานหน่อยมีประมาณนี้

มีงานวิจัยที่พยายามวัดผลลัพธ์ของนักลงทุนสายเทคนิคช่วงปี 1980  งานวิจัยชื่อ “Portfolio Design and Portfolio Perforance: The Individual Investor” ทำโดย Wilbur G. Lewellen, Ronald C. Lease และ Gary G. Schlarbaum  เค้าไปเก็บข้อมูลการซื้อขายของนักลงทุนจำนวนหนึ่ง  ตั้งแต่ช่วงปี 1964 – 1970  เค้าพบว่าการใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคทำให้ผลกำไรของนักลงทุนรายย่อยพวกนั้นแย่ลงมาก

เร็วๆนี้ขึ้นมาหน่อยก็จะมีงานวิจัยของเนเธอร์แลนด์ที่ทำการวัดผลลัพธ์การเทรดหุ้นด้วยสายเทคนิค  งานวิจัยชื่อ Technical Analysis and Individual Investors โดย  Arvid Hoffman  และ Hersh Shefrin  สองคนนี้ใช้บันทึกการซื้อขายของจริงของกลุ่มตัวอย่างนักลงทุนสายเทคนิค 5,500 คน ตั้งแต่ช่วงปี 2000 – 2006 มาทำวิจัย

โดยรวมแล้วผลจากสถิติจริงพบว่า  นักลงทุนรายย่อยที่ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการตัดสินลงทุน  มีแนวโน้มที่จะเก็งกำไรระยะสั้น, ถือหุ้นจำนวนน้อยตัว, มีการซื้อขายถี่กว่ากลุ่มที่ไม่ได้ใช้การวิเคราะห์เทคนิค  และได้รับผลตอบแทนที่ต่ำกว่า  โดยสรุปออกมาว่าสาเหตุที่ผลตอบแทนต่ำกว่ามาจาก  ปัจจัยแรกคือผลกำไรจริงการตัดสินใจเลือกหุ้น (0.5% ต่อเดือน)  และปัจจัยที่สองคือผลจากพวกค่าธรรมเนียมซื้อขาย (0.2% ต่อเดือน)  เมื่อรวมแล้วผลกำไรที่น้อยลงของการลงทุนด้วยสายเทคนิคคือ 0.7% ต่อเดือน  หรือคิดเป็นประมาณ 8.4% ต่อปี

พูดกันตามจริงมันก็มีงานวิจัยหลากหลายนะครับ  แต่ไอ้อันที่เก็บข้อมูลหลายปีที่ผมหาเจอก็จะมีสองตัวนี้  ซึ่งบอกผลชัดเจนเลยว่า  การลงทุนสายเทคนิคทำให้ผลตอบแทนเราแย่ลง

จนถึงตอนนี้จะมีผู้เข้าสัมมนาบางคนจะถามว่า  ถ้าเป็นแบบนั้นจริงแล้วทำไมคนนิยมสายเทคนิคกันล่ะ  มันมีคนใช้สายเทคนิคตั้งเยอะทั่วโลก  เผลอๆเป็นส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ  มันต้องได้ผลหรือมีอะไรดีสิคนถึงยังทำกัน  ดังนั้นในตอนต่อไปผมอยากตอบโดยเอาชื่อนักลงทุนระดับโลกที่มีผลลัพธ์โดดเด่นกว่าค่าเฉลี่ยอย่างชัดเจนและพิสูจน์ได้เกิน 10 ปีขึ้นไปมาดูกัน  ว่าส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสายไหน  และรวมถึงจะมาตอบด้วยว่าทำไมสายเทคนิคได้รับความนิยมกันจัง