หลุมพราง 7 ข้อที่คนไม่อยากเจ๊งต้องรู้ 7 : มองการณ์ใกล้

Seven Deadly Pitfalls 7: Shortsighted

เวลาเราซื้อหุ้นอะไรซักตัวหนึ่ง  หรือกำลังให้ความสนใจติดตามหุ้น  ก็เป็นธรรมดาที่เราจะเช็คข่าวคราว  คอยเปิดดูราคาความเคลื่อนไหวอยู่เป็นระยะ  เลยทำให้บางทีเราก็หวั่นไหวหรือตื่นเต้นไปกับปัจจัยระยะสั้นได้  และตรงเนี้ยแหละที่มักจะทำให้เราตัดสินใจพลาดได้

ผมได้ข้อคิดจากช่วงปี 2008  ตอนที่มันมีวิกฤติเศรษฐกิจในอเมริกาครับ  ซึ่งมาจากการที่ธนาคารปล่อยเงินกู้ซื้อบ้านไปเยอะมากเลย  แต่ลูกหนี้ไม่มีเงินจ่าย  ตอนปีนั้นราคาหุ้นโรงพยาบาลระดับบนตัวหนึ่งที่ผมถืออยู่ตกลงเยอะมาก  โรงพยาบาลนี้ส่วนใหญ่รับลูกค้าต่างชาติจากตะวันออกกลาง  ราคาตกลงฮวบฮาบ  ซึ่งในตอนแรกผมก็ตกใจมากเพราะเรามองใกล้  เรามองเห็นแค่ว่าเศรษฐกิจไม่ดี  ข่าวไม่ดี  หุ้นตก ฯลฯ  เกือบขายไปแล้วตอนนั้น

แต่พอได้สตินึกดูดีๆ  จริงๆการที่ลูกหนี้ไม่จ่ายเงินในอเมริกา  แล้วทำให้เศรษฐกิจอเมริกามีปัญหา  มันเกี่ยวอะไรกับคนไม่ไปหาหมอ ?  คนต่างชาติที่เค้ามาโรงพยาบาลในไทยนี่เค้ามาเพราะค่ารักษาพยาบาลที่ประเทศเราถูกกว่าเค้ามากนี่หว่า  จริงๆถ้าเงินไม่พอก็ยิ่งต้องมาทางเราป้ะ

พอเลิกมองการณ์ใกล้  ก็เลยไม่แตกตื่น  ก็เลยถือหุ้นนั้นข้ามปีวิกฤติมา  ก็เลยได้ขายไปในราคา 400% กว่าๆจากที่ซื้อมา  แล้วไม่พอแค่นั้น  พอคิดได้ว่าวิกฤติเงินกู้ซื้อบ้านในอเมริกา  ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับการที่คนไทยไม่ไปดูหนัง  ก็เลยซื้อหุ้นโรงหนังที่ราคาตกฮวบฮาบติดมือมาด้วย  แล้วสองปีหลังจากนั้นก็เลยขายไปตอนราคา 200% ของตอนซื้อ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  อย่าเผลอมองการณ์ใกล้  บางทีเราต้องใจเย็นลง  ถอยมาก้าวหนึ่ง  มองภาพองค์รวมให้ออก  มองไปไกลๆหน่อย  และถ้าสายตาสั้นก็ตัดแว่นซะครับ