ถึงตรงนี้เราน่าจะเห็นภาพตรงกันว่า เราไม่อยากได้ความเสี่ยงเพราะความเสี่ยงคือโอกาสจะเสียเงิน ถ้าสมมติเกิดเราจะเลือกลงทุนในอะไรที่เสี่ยงมากขึ้น เราต้องคาดหวังกำไรที่สูงขึ้นชดเชยเท่านั้น เราจะไม่ยอมรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นฟรีๆ คำถามต่อไปคือ แล้วความเสี่ยงนี่มันวัดได้ไหม หรือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย
เอาวัดได้ไหมก่อน
- ความเสี่ยงมันขึ้นอยู่กับมุมมองความเห็นของแต่ละคน
- ไม่มีเกณฑ์มาตรฐานอะไรจะมาวัด
- เหตุการณ์ทั่วไปเราอาจจะคาดเดาได้ แต่พวกเหตุการณ์ประเภทเกิดสิบปีครั้ง เช่น น้ำท่วมกรุงเทพ หรืออะไรพวกนั้นมันแทบไม่มีทางรู้
ในความเห็นผมคือ ความเสี่ยง เป็นอะไรที่วัดเป็นตัวเลขไม่ได้ และเชื่อว่าต่อให้เอานักลงทุนเก่งๆหลายคนมานั่งรวมกันในห้อง ปรึกษากันเลยนะ ก็ยังได้ตัวเลขออกมาไม่ตรงกันแน่นอน
แต่ถึงมันจะวัดออกมาเป็นตัวเลขเป๊ะๆไม่ได้ ผมเชื่อว่านักลงทุนที่มีฝีมือจะพอบอกได้คร่าวๆว่าหุ้นไหนเสี่ยงมากหรือเสี่ยงน้อย โดยการพิจารณาจากว่านักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดกำลังมองโลกในแง่ดีเกินไป, ใช้ความระมัดระวังน้อยไป และกำลังยอมจ่ายเงินแพงเกินไปเพื่อซื้อหุ้นอยู่หรือเปล่า
ว่าง่ายๆ ความเสี่ยงที่สูง มาจากเหตุผลหลักเลยคือ ซื้อมาแพง
หลายคนไปเข้าใจผิดว่า ผลตอบแทน กับ ความเสี่ยง มันเป็นอะไรที่แยกจากกันไม่เกี่ยวกัน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ความเสี่ยงที่สูงกับผลตอบแทนคาดหวังที่ต่ำ มันเป็นเรื่องเดียวกันครับ มันมาด้วยกันจากการซื้อในราคาที่แพง ความเสี่ยงเกิดขึ้น เมื่อราคาหุ้นสูงขึ้นไปมากๆ สูงมากซะจนแนวโน้มคือถ้าซื้อมาจะขาดทุนมากกว่าได้กำไร
ผมพูดเสมอว่า คนซื้อหุ้นมาแพงเสียเปรียบคนซื้อมาถูกเสมอ
- ถ้าหุ้นขึ้น คนซื้อมาแพง กำไรน้อยกว่า คนซื้อมาถูก
- ถ้าหุ้นตก คนซื้อมาแพง ขาดทุนหนักกว่า คนซื้อมาถูก
- ได้ปันผล คนซื้อมาแพง % ผลตอบแทนน้อยกว่า คนซื้อมาถูก
วันนี้พอเท่านี้ก่อน สรุปคือ จะรู้ได้ไงว่าเสี่ยงมาก เราสามารถกะได้คร่าวๆจากการพิจารณานักลงทุนทั่วไป ดูว่าเค้ากำลังตื่นเต้นดีใจแล้วทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูงหรือเปล่า
คราวหน้าเราจะมาทำความเข้าใจต่อเรื่อง ตื่นเต้นดีใจเกินไปนี่ดูจากอะไร และทำไมคนถึงต้องตื่นเต้นดีใจขนาดนั้นด้วย