วิธีบริหารจัดการพอร์ตลงทุนสำหรับคนขี้เกียจ

Portfolio Management for Lazy People

ล่าสุดผมได้ไปอ่านเจอวิธีการบริหารจัดการพอร์ตอันนึงมาดีมากเลยครับ จริงๆเคยอ่านเจอไปก่อนแล้วนะสมัยเด็กๆแต่ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไร แม้ว่าส่วนตัวผมจะได้ไม่ได้ใช้ แต่ผมสำหรับคนที่เวลาไม่เยอะแนะนำให้ทำตามวิธีนี้เลย เป็นวิธีระบบกึ่งอัตโนมัติที่เหมาะกับคนไม่ต้องการคิดอะไรเยอะ และยังเป็นวิธีที่ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าซื้อหุ้นตอนแพงหรือขายตอนถูกเกินไปมั้ย หรืออะไรทำนองนั้นด้วยครับ

วิธีการคือให้คุณกำหนดสัดส่วนระหว่างลงทุนในหุ้นกับลงทุนในเงินฝากประจำที่คุณสบายใจเอาไว้ก่อนครับ เช่นคุณอาจจะบอกถือหุ้น 60% เหลือไว้เผื่อ 40%  แล้วจากนั้นก็ยึดเอาอัตราส่วนนี้ไว้ให้ตลอดครับ กรณีนี้สมมติอัตราส่วนคุณเป็น 60-40 สมมติคุณมีเงิน 100 บาท ก็ลงทุนในหุ้น 60 บาท แล้วฝากธนาคาร 40 บาทใช่มั้ยครับ ทีนี้สมมติว่าตลาดหุ้นขึ้นมูลค่าเงินลงทุนในหุ้นคุณเพิ่มสองเท่ากลายเป็น  120 บาท อัตราส่วนที่มีก็ไม่ใช่ 60-40 ละ คุณก็ต้องเลือกขายหุ้นบางส่วนออกมาแล้วไปเก็บเป็นเงินฝาก ให้เป็นอัตราส่วนเดิมซะก็คือ หุ้น 96 บาท เงินฝาก 64 บาท (เป็นอัตราส่วน 60-40 เหมือนเดิม)  ก็แปลว่าถ้าหุ้นขึ้นไปเยอะๆ ระบบยึดสัดส่วนพอร์ตแบบนี้ก็จะบังคับให้คุณขายหุ้นบางส่วนออกมาเป็นระยะๆ กรณีที่มันสูงเกินไปแล้วหุ้นตก คุณก็จะไม่ค่อยเดือดร้อนเพราะได้ขายออกไปบ้างแล้ว

ทีนี้ถ้ากลับกันตลาดหุ้นตก มูลค่าหุ้นที่คุณถืออยู่ก็จะน้อยลง ตามระบบก็คือคุณก็จะถอนเงินสดบางส่วนมา แล้วลงทุนเพิ่มในหุ้นเพื่อรักษาอัตราส่วนการลงทุนครับ ดังนั้นยิ่งหุ้นตกเยอะๆคุณก็จะยิ่งซื้อเยอะขึ้นไปอีก เป็นวิธีช่วยตัดสินใจอัตโนมัติที่ทำให้คุณไม่ต้องสนว่าอันนี้ตลาดลงสุดหรือยัง คุณก็จะค่อยๆเก็บหุ้นที่ตกตามระบบนี้อยู่แล้วครับ

ถ้าสังเกตจะเห็นว่า วิธีการนี้แก้ปัญหาการเอาอารมณ์มาเกี่ยวครับ คนส่วนใหญ่พลาดเพราะอารมณ์พาไป เช่นหุ้นขึ้นไปเยอะๆดันซื้อตอนนั้นเลยได้ของแพง หรือหุ้นตกก็ตกใจเกินเหตุจนขายเกินหรือไม่ได้ซื้อพลาดโอกาสไปอีก วิธีนี้ผมว่าดีทีเดียว ถ้าทำตามอย่างเคร่งครัดมันช่วยควบคุมพฤติกรรมเราไม่ให้ไปตามอารมณ์ได้ครับ ง่ายมากๆและที่สำคัญทำให้เราลงทุนไปถูกทิศถูกทางมากขึ้นด้วย มันเป็นวิธีการที่อาจจะไม่ได้ทำให้ได้ผลดีที่สุด แต่มันได้ผลกับคนที่คุมตัวเองไม่ได้หรือขี้เกียจวุ่นวายแน่นนอนครับ

แต่สุดท้ายนี้ ต้องเข้าใจนะครับว่าผมไม่ได้บอกว่าซื้อหุ้นไม่ต้องเลือกนะครับ เรายังต้องเลือกหุ้นที่จะให้ผลตอบแทนดีเหมือนเดิม และเวลาขายก็ไม่ได้แปลว่าขายมั่วนะครับ ก็ยังต้องเลือกขายหุ้นที่เกินมูลค่าประเมินก่อนตัวอื่นครับ วิธีนี้ช่วยจัดการเรื่องสัดส่วนเงินลงทุนนะครับ ไม่เกี่ยวกับเลือกหุ้น

Please note: I reserve the right to delete comments that are offensive or off-topic.

Leave a Reply