ภาษาหุ้นวันนี้  7:  การแตกพาร์หุ้น

Financial Terms 7:  Stock Split

วันนี้เรานำเสนอหัวข้อง่ายๆเบาสมองบ้างครับ สำหรับคนที่เป็นคนใหม่มากหรือไม่เคยได้ยินเรื่องการแตกพาร์หุ้นมาก่อนได้ยินว่าหุ้นที่เราถือจะมีการแตกพาร์ อาจจะมีงงๆหรือมีการตกใจบ้างว่ามันคืออะไร แล้วมันจะส่งผลอะไรกับหุ้นที่เรามีอยู่หรือไม่ แล้วเค้าจะทำไปเพื่ออะไร วันนี้ผมเลยมาเล่าให้ฟังครับ

หุ้นปกติตอนที่เค้าออกมามันจะมีว่าออกมากี่หุ้นและแต่ละหุ้นนี้ที่พาร์เท่าไหร่ เช่น

สมมติว่าบริษัท A ปัจจุบันมีหุ้นที่ออกมาแล้วมีจำนวน 100,000 หุ้น  และแต่ละหุ้นพาร์ 10 บาท

แปลว่ามูลค่าหุ้นทั้งหมดที่บันทึกตามบัญชีคือ 100,000, × 10  =  1,000,000 บาท  ที่พูดถึงมานี้คือส่วนที่จะบันทึกอยู่ในงบบัญชีของบริษัท

แต่ทีนี้ราคาในตลาดของหุ้นก็อาจจะไม่ได้อยู่ที่ 10 บาทต่อหุ้นเหมือนราคาพาร์ ในกรณีตัวอย่างสมมติว่าหุ้นนี้ขายอยู่ที่ 24 บาทต่อหุ้นละกัน แล้วสมมติว่าเราซื้อหุ้นนี้ซัก 10,000 หุ้นเลย คิดเป็นสัดส่วนความเป็นเจ้าของ 10% ของบริษัทนี้  มูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่เราถืออยู่คือ 10,000 × 24  =  240,000 บาท

ทีนี้วันดีคืนดี บริษัท A ตัดสินใจแตกพาร์หุ้น เค้าบอกไม่เอาละ เค้าจะแตกหุ้นจากหุ้นเดิม 1 หุ้นเป็นสิบส่วนให้กลายเป็น 10 หุ้นย่อย จากหุ้น 1 หุ้นที่พาร์ 10 บาท ก็จะกลายเป็นหุ้น 10 หุ้นแต่ละหุ้นเหลือเป็นพาร์ 1 บาท แทน

สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเลขที่บันทึกในงบบัญชีของบริษัทก็คือ จำนวนหุ้นก็จะเปลี่ยนไปเพราะแตกย่อยมากขึ้น ตอนนี้มันจะกลายเป็น 1,000,000 หุ้น และแต่ละหุ้นราคาพาร์ที่ 1 บาทแทน มูลค่าหุ้นตามบัญชีก็จะยังมูลค่าเท่าเดิมคือ 1,000,000 × 1  =  1,000,000 บาทเหมือนเดิม

แล้วหน้าตาของหุ้นที่เราถืออยู่ล่ะ ตอนแรกเราถืออยู่ 10,000 หุ้น ตอนนี้มันแตกย่อยลงจาก 1 เป็น 10 ก็กลายเป็นเราถือ 100,000 หุ้นละ แต่ก็จะยังคิดเป็นสัดส่วนความเป็นเจ้าของ 10% เหมือนเดิม (100,000 ÷ 1,000,000  =  10%) และแน่นอนราคาของหุ้นในเมื่อมันถูกซอยย่อยลง ราคาของหุ้นชิ้นเล็กเหล่านั้นก็จะเล็กตามไปด้วย จาก หุ้นละ 24 บาท พอหุ้นโดยหารเป็นสิบส่วน ราคาก็จะหารเป็นสิบส่วนด้วยเหลือหุ้นละ 2.4 บาท  รวมมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่เราถืออยู่คือ 100,000 × 2.4  =  240,000 บาทเหมือนเดิม

คุณจะสังเกตว่าการแตกพาร์หุ้น ไม่ได้ทำให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ มูลค่าของบริษัทนี้ก็ยังเท่าเดิม และมูลค่าเงินลงทุนของเราก็ยังเท่าเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปแค่ว่าซอยแบ่งหุ้นให้ถี่ขึ้นเท่านั้น สรุปได้เหมือนตามรูปแบ่งพิซซ่าข้างล่างเนี่ยครับ

ทีนี้หลายคนก็ถามผมว่า แล้วอย่างนั้นจะทำการแตกพาร์หุ้นไปเพื่ออะไร เท่าที่ผมทราบมันก็ไม่ได้มีประโยชน์หรือมีประเด็นอะไรมากมายครับ รู้สึกว่าประโยชน์อย่างเดียวที่มีคือการทำให้มูลค่าต่อหุ้นมันน้อยลงจะได้ซื้อขายง่ายขึ้น เพราะหุ้นบางหุ้นจะมีราคาต่อหุ้นแพง และในกระดานซื้อขายหุ้นปกติเค้าจะซื้อขายกันอย่างน้อยทีละ 100 หุ้น ผมจะยกตัวอย่างหุ้นบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) ราคาของหุ้นรามคำแหงล่าสุดนี่ 2,200 บาทต่อหุ้นครับ แล้วถ้าคนจะซื้อหุ้นนี้ก็ต้องอย่างน้อยทีละ 100 หุ้น แปลว่าคนนั้นก็ต้องมีเงินอย่างน้อย 2,200 × 100  =  220,000 บาทครับ ถึงจะซื้อหุ้นโรงพยาบาลรามคำแหงได้ มันก็เลยทำให้ยากไงครับ เพราะนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากก็ไม่พร้อมจะซื้อทีสองแสนกว่าบาทในหุ้นตัวเดียวแบบนั้น ดังนั้นถ้ามีการแตกพาร์หุ้นก็อาจจะช่วยให้มีคนนิยมซื้อขายหุ้นนี้มากขึ้นก็ได้ครับ