ตลาดมันรู้เรื่องดีกว่าเราจริงเหรอ

Does the market really know shit ?

greed-fear

ที่เขียนหัวข้อนี่เริ่มจากมีคนถามว่า

“ตลาดหุ้นตก  หุ้นที่คุณเป้งถืออยู่ก็ราคาตกด้วย  ไม่กังวลเลยเหรอ”

สิ่งที่เรากังวลจริงๆคือ  เรากลัวราคาที่ตกลงมานี้มันจะไม่กลับขึ้นมา  หรือหนักกว่านั้นคือตกต่ำลงไปอีก  จนกลายเป็นขาดทุนถาวรถูกมั้ยครับ  เรากำลังสงสัยว่าที่ตลาดหุ้นตก  มันเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอนาคตธุรกิจจะมีปัญหา  แล้วราคาหุ้นจะตกต่ำลงไปอีกใช่มั้ยครับ

ดังนั้นคำถามสำคัญคือ  “ตลาดหุ้นนี่มันรู้เรื่องจริงเหรอ”  ถูกต้องมั้ยครับ  ถ้าตลาดหุ้นฉลาดรู้เรื่อง  แปลว่าถ้าตลาดหุ้นตกผมควรต้องกังวลแล้วล่ะ  หรือจริงๆแล้วถ้าตลาดหุ้นมันโง่ไม่รู้เรื่อง ก็ แปลว่าผมไม่ต้องกังวลไม่ต้องไปสนใจมันด้วย

ผมจะพยายามตอบเรื่องนี้ให้ชัด

ประเด็นอย่างแรกเลย  “ตลาด” เนี่ยมันไม่ใช่สิ่งวิเศษอะไรหรอก  มันเป็นแค่การรวมตัวของกลุ่มคนขนาดใหญ่ที่ทำการซื้อขายหุ้นก็แค่นั้น  ดังนั้นตลาดไม่ได้รู้อะไรมากเป็นพิเศษ  มันก็รู้เท่าค่าเฉลี่ยกลุ่มคนส่วนใหญ่เท่านั้นแหละ  เพราะว่าอะไร  เพราะทุกคนที่อยู่ในตลาดทั้งเก่งหรือไม่เก่ง จะมีประสบการณ์หรือมือใหม่กิ๊ก  ความเห็นทุกคนร่วมมีผลกำหนดราคาหุ้นในตลาดทั้งนั้น  มันไม่ได้แยกแยะนี่ว่าการตัดสินใจซื้อขายของคนที่เก่งกว่าจะมีผลต่อราคาตลาดมากกว่า  ดังนั้นพูดให้ชัดๆ  “ราคาตลาดมันสะท้อนความคิดเห็นเฉลี่ยของคนในตลาด  ดังนั้นตลาดก็ฉลาดเท่าๆค่าเฉลี่ยน่ะแหละ”

ประเด็นที่สองคือ  ตลาดบ้ากว่าและอารมณ์แปรปรวนกว่าคนปกติ  นั่นเป็นเพราะคนเรามักมีพฤติกรรมแห่ทำตามกัน  อันนี้จากงานวิจัยจริงๆเลยนะ  เค้าพบว่าถ้ามีคนจำนวนมากแตกตื่น  มันจะทำให้คนอื่นรอบๆพลอยตกใจวิ่งหนีหรือแตกตื่นไปด้วย  นึกถึงเวลามีแชร์ข่าวปลอมกันบนโซเชียลมีเดียก็ได้  คือถ้ามันมีคนแชร์กันเยอะๆ  ทั้งที่เป็นข่าวปลอมแต่ก็จะมีคนเชื่อและแชร์ต่อไปกันจนมั่วไปหมด  ดังนั้นเวลามีความตกใจกลัวหรือตื่นเต้นดีใจเกิดขึ้นในตลาด  มันมักจะเว่อร์เกินเหตุไปตามอารมณ์คน

มันก็นำมาสู่ประเด็นที่สามคือ  “ทำไมเราถึงต้องไปเชื่อตามตลาด  ซึ่งก็ไม่ได้ฉลาดอะไรนักหนา  แถมยังบ้ากว่าปกติด้วย”  คำตอบสำหรับผมก็คือ  เราก็ไม่ต้องไปบ้าตามตลาดก็ได้ไง  ดังนั้นเวลาตลาดหุ้นตก  หรือตลาดหุ้นขึ้น  ผมก็เลยไม่รู้สึกกังวลหรือดีใจอะไรเป็นพิเศษ  สิ่งที่ผมสนใจคือตัวกิจการที่ผมเป็นเจ้าของอยู่ต่างหาก  บริษัทมันเป็นยังไงบ้างแล้ว  ยังทำได้ดีอยู่มั้ย  ดีกว่าหรือแย่กว่าที่เราคาด  เพราะสุดท้ายปลายทางเงินลงทุนผมจะโตหรือจะเละ  มันขึ้นกับผลประกอบการของบริษัท  ตลาดอาจจะตกใจบ้าบอได้เป็นระยะๆ  แต่ในระยะยาวแล้วมันก็จะได้สติครับ  เราแค่ต้องอย่าไปบ้าจี้ตามเค้าเท่านั้นเอง

ไว้คราวหน้าถ้ามีอารมณ์เขียนหัวข้อประมาณนี้  เดี๋ยวจะเอาตัวอย่างตลาดบ้าบอไร้เหตุผลมาให้ดูครับ  แต่ผมว่าถ้าเริ่มสังเกตดีๆเราก็จะเริ่มเห็นแหละ

buybuy-sellsell