หลุมพราง 7 ข้อที่คนไม่อยากเจ๊งต้องรู้ 3 : มั่นใจ (เหลือเกิน)

Seven Deadly Pitfalls 3 : Overconfidence

เป็นธรรมชาติของนักลงทุนที่จะเชื่อมั่นในความคิดเห็นของตัวเอง  โดยเฉพาะที่ไม่ใช่ใหม่กิ๊กแต่เริ่มมีความรู้หรือว่าลงทุนมาได้ระยะหนึ่งแล้ว  เชื่อมั่นในตัวเองนี่สำคัญและเป็นสิ่งที่ดี  เพราะในตลาดหุ้นเราควรตัดสินใจลงทุนรับผิดชอบตัวเองอยู่ละ

ปัญหามันจะเริ่มมาตอนที่มั่นใจเกินนี่แหละ  การมั่นใจเกินไปทำให้  หนึ่งเลยคือทำให้ไม่มีการเรียนรู้  คิดไปว่ารู้เรื่องดียอดเยี่ยมแล้วพัฒนาการก็จะหยุดอยู่แค่นั้น  กับอย่างที่สองที่น่ากลัวนี่คือทำให้เราประมาทครับ  ผมประสบกับตัวเองมาเลยก็เลยอยากจะมาเล่าให้ฟังเป็นข้อคิด

ผมเคยซื้อหุ้นตัวนึง  มันเป็นหุ้นบริษัทที่ทำช่องรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง  ผมก็ทำศึกษาตามขั้นตอนปกติ  บริษัทนี้ทำช่องรายการข่าว  และที่ผ่านมาก็ทำได้ดี  ดูเหมือนจะมีกลุ่มผู้ชมที่ติดตามช่องรายการนี้พอสมควร  เรทติ้งของผู้ชมค่อนข้างสม่ำเสมอ  ดังนั้นผมจึงทำการประมาณการรายได้และเตรียมราคาเป้าหมายตามปกติ  ทีนี้มันมีอยู่นิดนึงคือ  บริษัทนี้กำลังจะระดมทุนเพิ่มโดยการออกหุ้นใหม่  เป็นการระดมทุนเพื่อประมูลทีวีดิจิตอล  โดยเค้าประกาศว่าอัตราส่วนการเพิ่มทุน 2 ต่อ 1

เพิ่มทุน 2 ต่อ 1  สำหรับผมแล้วก็แปลว่าการประมาณการต้องมีการเผื่อการเจือจาง  ในเวลานั้นผมดันคิดไปเองว่ามันคือออกหุ้นใหม่ 1 หุ้น จาก 2 หุ้นเดิม (เพิ่มจำนวนหุ้น 50%)  แต่จริงๆมันไม่ใช่  เพราะมันเป็น 2 หุ้นใหม่ จาก 1 หุ้นเดิม (เพิ่มจำนวนหุ้น 200%)

ความเข้าใจผิดแต่คิดเองว่าเข้าใจถูก  ทำให้ผมประมาณการราคาหุ้นที่ต้องซื้อคลาดเคลื่อนเยอะมาก  ผมซื้อมาแพงเกินกว่าที่ควรถึง 2 เท่า  และจึงไม่แปลกใจเลยที่ผลสุดท้ายคือลงทุนครั้งนั้นเสียเงินไปหลายแสนบาททีเดียว  ที่น่าอนาถที่สุดเลยนะ  คือเรื่องเพิ่มทุนนี้มันเป็นข่าวละครับ  มันเป็นแผนการที่ชัดเจนอยู่แล้ว  แค่หาข้อมูลคอนเฟิร์มนิดหน่อยผมก็ควรจะทราบจำนวนหุ้นที่เพิ่มละ  ค่าประมาทในครั้งนั้นแพงมากครับ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  จงอย่ามั่นใจเกินไป  นักลงทุนที่ดีควรมีคนให้คุยปรึกษา  จะเป็นญาติพี่น้องหรือเพื่อนกันที่เราไว้ใจก็ได้ครับ  ขอให้เป็นคนที่ไม่มีผลประโยชน์หรือได้ผลกระทบอะไรกับการลงทุนของเรา ก็ใช้ได้