อ่านงบการเงิน (สมมติไม่รู้บัญชีเลย)

What To Read On The Annual Report (Part 6)

we-are-in-good-shape-nobody-understands-our-financial-statement

ถัดจากความเห็นผู้สอบบัญชี  ก็จะมาถึงส่วนที่รายละเอียดเยอะของรายงานประจำปีละครับ  มันจะเป็นงบการเงินส่วนใหญ่ตรงนี้คนมักมีปัญหาอ่านไม่รู้เรื่องเพราะจะเอารู้เรื่องจริงจังต้องมีความรู้บัญชีประกอบ    แต่โจทย์วันนี้คือเราจะมาพูดถึงการดูอ่านจับใจความที่คนไม่มีพื้นฐานเรียนบัญชีมาอ่านรู้เรื่องก่อน  (ซึ่งต้องบอกว่ารู้บัญชีจะดีกว่าเยอะเลย  คนไม่รู้บัญชีเสียเปรียบมาก)

อันแรกที่เจอจะเป็นงบแสดงสถานะทางการเงิน  ผมจะกวาดตาดูเรื่องดังต่อไปนี้

  • ในหมวดสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน หาชื่อประมาณนี้  “ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์”  แล้วดูว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเยอะมั้ย  ถ้ามันเยอะแปลว่าน่าจะมีการลงทุนขยายอะไรซักอย่าง  ต้องลองดูว่าสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริหารบอกว่าทำหรือเปล่า
  • ดูหมวดหนี้สินไม่หมุนเวียน ดูรายการพวก  “เงินกู้ยืมระยะยาวสถาบันการเงิน”, “เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคาร”, “หุ้นกู้”  อันนี้คือเงินกู้ยืมระยะยาวที่ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรมีอะไรเยอะแยะ  ดูว่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเยอะมั้ย  ถ้าเยอะก็ต้องดูว่าเป็นเพราะขยายกิจการอะไรหรือเปล่า

อันต่อมาเป็นงบกำไรขาดทุน  ดูคร่าวๆเรื่องดังต่อไปนี้

  • รายได้เพิ่มขึ้นมั้ย
  • ต้นทุนขายหรือต้นทุนการให้บริการ เพิ่มขึ้นหรือลดลงเป็นสัดส่วนเดียวกับรายได้หรือเปล่า  เช่นถ้ารายได้เพิ่มขึ้น 10% ต้นทุนของหรือบริการที่ขายก็ควรจะเพิ่มขึ้น 10% ตาม  ถ้ารายได้ลงลง 15% ต้นทุนของหรือบริการที่ขายก็ควรจะลดลง 15% ตาม  ถ้ามันไม่ขยับในทิศทางเดียวกัน  หรือคลาดเคลื่อนจากกันเยอะ  อันนี้ก็ผิดปกติ
  • ย้อนกลับไปหน้างบแสดงสถานะทางการเงิน เทียบสัดส่วนลูกหนี้การค้ากับรายได้ดูซิ  สัดส่วนมันควรจะเท่าๆเดิมนะ  เป็นไปได้เก็บเงินลูกค้าได้จะดีที่สุด  ดังนั้นถ้าเห็นลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ก็แปลว่าน่าสงสัยละ
  • กำไรสุทธิเพิ่มขี้นมั้ย
  • กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นหรือเปล่า  เช่น  รายได้เพิ่มขึ้น 20%  โดยไอเดียกำไรสุทธิก็น่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% เหมือนกัน  ถ้าสมมติรายได้เพิ่มขึ้นเยอะเลย 20%  แต่กำไรสุทธิเท่าเดิม  หรือเพิ่มน้อยมาก 5% อะไรงี้  เราก็ต้องเอะใจบ้างแล้วและหาว่ารายได้ที่ได้มา  หายไปกับเรื่องอะไรกันแน่  ทำไมกำไรไม่โตตามรายได้
  • สังเกตหารายได้หรือรายจ่ายที่ไม่ใช่รายการปกติ เช่น กำไรหรือขาดทุนจากการขายทรัพย์สิน, กำไรหรือขาดทุนจากเงินประกันน้ำท่วม, กำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน  รายได้หรือรายจ่ายกลุ่มนี้เป็นพวกตัวชั่วคราว  อาจทำให้กำไรดูดีหรือแย่เกินความเป็นจริงได้

ถัดมาเป็นงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้น

  • พิจารณาตรง “ทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้ว” หรือชื่อประมาณนี้ ดูว่าไม่ได้เพิ่มขึ้น  และถ้าเห็นว่าเพิ่มขึ้นให้ดูว่ามาจากสาเหตุอะไร  ถ้ามาจากปันผลเป็นหุ้นไม่เป็นไร  แต่ถ้ามาจากการออกหุ้นใหม่หรืออย่างอื่น  อาจต้องสงสัยนิดนึงว่าเค้าจะออกหุ้นใหม่มาทำอะไร

สุดท้ายตรงส่วนงบกระแสเงินสด

  • หมวดกระแสเงินสดจากการดำเนินงานควรจะเป็นบวก เพราะดำเนินงานแล้วไม่ได้เงินไปเรื่อยๆมันเจ๊งแน่นอน
  • หมวดการลงทุน โดยชื่อมันก็รู้อยู่แล้วว่าควรจะเป็นลบเพราะเราใช้เงินไปลงทุน  ส่วนนี้สังเกตว่าลงทุนเรื่องอะไร  เป็นการซื้อที่ดิน อาคารและอุปกรณ์เหรอ  หรือเป็นการลงทุนระยะยาวในบริษัทลูก  หรือทำอะไร
  • หมวดการจัดหาเงิน อันนี้ก็ดูว่ามีการกู้ยืมเงินเพิ่มเติมแค่ไหน  เอาเงินไปทำอะไร  คอยดูว่ามันไม่บ้าจนเกินไป

โดยรวมแล้ว  ถ้าเป็นผมไม่รู้บัญชี  ผมก็จะดูเรื่องหลักๆประมาณนี้แหละ  จริงๆส่วนตรงนี้สำคัญมาก  เราต้องการจะรู้ว่าทั้งหลายทั้งปวงสุดท้ายแล้วบริษัททำได้ดีแค่ไหนอย่างไร  และมีอะไรผิดสังเกตไปบ้าง

ปล.  ซึ่งถ้าเป็นไปได้บอกจากใจจริงด้วยความหวังดี  ไปเรียนบัญชีพื้นฐานเถอะนะ  ไม่ได้ต้องถึงขนาดลงบัญชีเองได้  แต่หัดให้อ่านรู้เรื่องเถอะครับ  เราจะได้เปรียบคนอื่นอีกเยอะ  จะบอกว่าปกติเรื่องนี้ผมมีเปิดคอร์สสอนด้วยนะ