ถ้าต้องถือหุ้นเดียวเลยถือหุ้นอะไร ?

What one stock will I buy if I have to hold it forever?

ถ้าต้องถือหุ้นเดียวเลยถือหุ้นอะไร ?

มีคนถามว่าสมมติผมต้องถือหุ้นเดียวเลยไปยาวๆจะถือหุ้นอะไร

เอาจริงๆอันนี้ยากนะ ผมก็ชอบหลายบริษัทแต่พอโจทย์คือต้องหุ้นเดียวยาวนี่ทำให้ยากเพราะเราก็รู้ว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลง ธุรกิจที่ดีวันนี้อนาคตอาจจะตกยุคตายไปก็ได้

ดังนั้นถ้าต้องหุ้นเดียวจริงๆ มั่นใจสุดคงเป็น Berkshire Hathaway มั้ง แน่นอน Warren Buffet อาจจะไม่ได้อยู่ไปตลอด แต่ด้วยความที่ตอนนี้ Berkshire Hathaway เป็น Holdings Company ที่มีบริษัทลูกในกลุ่มที่ทำได้ดีจำนวนมาก และมีถือหุ้นบริษัทที่ดีที่อยู่ในตลาดหุ้นอีก โอกาสที่จะเละเทะก็จะยากหน่อย

อันนี้เอามาให้ดู ตัวอย่างบริษัทที่เป็นบริษัทลูก ไม่แน่ใจว่าครบมั้ยนะ

ส่วนนี่ก็จะเป็นตัวอย่างบริษัทที่เค้ามีถือหุ้น อันนี้จะเปลี่ยนแปลงบ่อยหน่อย ดังนั้นเช่นกันอาจจะไม่ครบหรือมีการเปลี่ยนแปลง

แล้วที่ผ่านมาเค้าก็ทำได้ดีนะ

บางคนบอกหุ้น Berkshire Hathaway แพงมากซื้อไม่ไหว แนะนำให้ซื้อ Class B ครับ ราคาจะเป็นประมาณ 1 ใน 1,500 ของ Class A สัดส่วนความเป็นเจ้าของในแง่ส่วนแบ่งกำไรจะเหมือนซอยย่อย Class A ลงมาเป็น 1 ใน 1,500 สอดคล้องกับราคาหุ้น ที่แย่กว่าคือเรื่องสิทธิในการโหวตเท่านั้นเอง จะเป็น 1 ใน 10,000 ของ Class A ซึ่งเอาจริงเราก็คงไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

ดูหุ้นบริษัทนึงใช้เวลานานมั้ย ?

How long does it take to look at a company?

ดูหุ้นบริษัทนึงใช้เวลานานมั้ย ?

มีคนถามว่าปกติดูหุ้นบริษัทนึงนานมั้ยกว่าจะตัดสินใจว่าจะลงทุนหรือไม่ลงทุน

โดยส่วนตัวของผมก็น่าจะซักอาทิตย์นึงบวกลบ ส่วนใหญ่จะเริ่มทำการดูจริงจังก็ต่อเมื่อรู้สึกว่าเป็นบริษัทที่น่าสนใจ ไม่รู้สึกว่าจะเข้าใจยากจนเกินไป แล้วก็ราคาตกลงมาเยอะระดับนึงแตะ Alert ที่ตั้งไว้ ไอเดียหลักๆที่บอกดูประมาณอาทิตย์นึงก็จะประมาณนี้

วันสองวันแรก เอาเรื่องว่าบริษัททำอะไร, ที่ผ่านมาเป็นยังไงกับราคามันตกเพราะอะไรให้เรียบร้อย อ่านเอกสารล่าสุดอย่าง 56-2, Annual report, Quarterly report, ข่าวสารว่าเกิดอะไรขึ้น พยายามให้เห็นภาพความเป็นไปของบริษัทให้มากที่สุด เค้ากำลังทำอะไรอยู่และกำลังพยายามไปทางไหน สินค้าเค้าถ้ามีรูปมีวีดิโออธิบายสินค้าอะไรพวกนี้ยิ่งดี

วันสองวันถัดมา ก็จะเป็นเรื่องว่าสรุปบริษัทนี้มันทำได้ดีเพราะอะไรนะ รีวิวลูกค้า, รีวิวพนักงาน, บทความมีใครพูดถึงบริษัทนี้มั้ย, YouTube อะไรเอาให้หมด พยายามเก็ทไอเดียว่ามันมีคนพูดถึงเยอะหรือน้อย ถูกเอาไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งมั้ย เป็นผู้นำในเรื่องไหนบ้าง ทำไมขายดี

วันสองวันถัดมาอีก โฟกัสไปยังเรื่องอุตสาหกรรมกับเรื่องแวดล้อมของบริษัทมากขึ้น ถ้ามีคู่แข่งโดยตรงอยู่ในตลาดหุ้นคือต้องไปอ่านเลย พยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมให้ได้มากที่สุดที่เป็นไปได้ แข่งกันยังไง มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง

สุดท้ายเลยก็พิจารณาดูว่าเรารู้สึกว่าเรามีความมั่นใจขนาดไหนว่าบริษัทจะทำได้ดีต่อไป ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ทำให้หุ้นตกแต่แรกนีมันจะทำให้บริษัทเละมั้ย ยังสนใจอยู่หรือเปล่า หรือยังมีอะไรติดค้างที่รู้สึกว่าต้องศึกษาเพิ่มเติมมั้ย ถ้าสนใจอยู่ก็ประเมินมูลค่าว่าราคาถูกพอมั้ย ถ้ายังติดค้างก็ไปทำความเข้าใจเรื่องนั้น หรือถ้าไม่สนใจละไม่ค่อยแน่ใจอนาคตก็ดรอปมันไป เท่านั้นเองครับ

สรุปคือ ประมาณ 1 สัปดาห์ และการทำแบบนี้ก็จะจำกัดขอบเขตสิ่งที่ผมลงทุนในระดับนึง อะไรยากจัดๆที่ดูว่าจะเข้าใจนี่คงต้องนานส่วนใหญ่ผมก็ปล่อยไป
 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

งบการเงินของ REIT กับหุ้นต่างกันมั้ย ? ต้องดูอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า ?

Is financial statement of REIT different from normal company ?

งบการเงินของ REIT กับหุ้นต่างกันมั้ย ? ต้องดูอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า ?

เร็วๆนี้มีคนถามมาทาง fb บอกว่างบการเงิน REIT หน้าตาไม่เหมือนหุ้น  แล้วก็สงสัยว่างบ REIT ควรดูยังไง  วีดิโอนี้เราตอบเรื่องนี้ครับ

ก่อนอื่นตอบอย่างแรกก่อนเลย  ที่บอกงบการเงิน REIT หน้าตาไม่เหมือนงบการเงินหุ้นนั่นไม่จริงครับ  คนถามน่าจะเข้าใจอะไรผิดซักอย่าง  หน้าตามันเหมือนกันมากและรายการที่อยู่บนนั้นความหมายก็เหมือนกันในสาระสำคัญทั้งหมดเลย  ซึ่งเดี๋ยวผมเปิดให้ดู

และดังนั้นสำหรับคำถามต่อมาที่ถามว่างบการเงิน REIT นี่เราควรดูอะไรยังไง  ในเมื่อมันก็เหมือนงบการเงินของหุ้นเราก็ดูเหมือนๆกันน่ะครับ  หลักๆแล้วคือเราอยากรู้ว่าตัวตึกที่ REIT เป็นเจ้าของนี่มันเป็นที่ต้องการมั้ย  รายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นมั้ย, เก็บเงินได้มั้ย, ฯลฯ  เรื่องตัวกำไรขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าทรัพย์สินที่ประเมินใหม่  อันนี้โดยตัวมันเองถ้าไม่ใช่ว่าเปลี่ยนแปลงรุนแรงโดยปกติก็ไม่ได้ซีเรียสนะ  มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรโดยตรงกับผลการดำเนินงานของ REIT  เพียงแต่บางทีเราอาจจะต้องสงสัยถ้าเห็นมันลดค่าลงอย่างต่อเนื่องทุกปี  เราต้องเริ่มคิดว่าอะไรทำให้คนประเมินมูลค่าปรับการประเมินเยอะขนาดนั้น  ทำเลแย่ลงเหรอ  อนาคตความต้องการน่าจะน้อยลงเหรอ  หรือมีคู่แข่งโผล่มาในพื้นที่แถวนั้นเยอะขึ้นเหรอ

สรุปคือ  งบการเงินก็เหมือนหุ้น  เรื่องที่ดูบนงบการเงินก็เหมือนๆกัน  และที่สำคัญเรื่องที่ไม่ได้อยู่บนงบการเงินก็ต้องดูเหมือนๆกัน  อย่างเช่นคำถามว่าสรุปบริษัทมันทำอะไรกันแน่, ทำไมที่ผ่านมาทำได้ดี  และมันจะยังทำได้ดีต่อไปในอนาคตมั้ยเป็นต้น

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

ทำไมหุ้นบางตัวถึงถูกระงับการซื้อขาย ?

Why is there "halt trading" ?

ทำไมหุ้นบางตัวถึงถูกระงับการซื้อขาย ?

ก็เป็นคำถามที่ดีนะ  ในหลักการก็คือเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนแบบเรานี่แหละ  แต่ในรายละเอียดผมก็ไม่รู้เหมือนกันเลยไปเปิดเวป SET มาตอบให้ครับ

เท่าที่อ่านดู  การที่ตลาดหลักทรัพย์สั่งให้หยุดซื้อขายหุ้นมันก็จะมีเหตุผลสรุปคร่าวๆดังนี้

  1. กรณีที่มีข้อมูลหรือข่าวสารสำคัญเกิดขึ้น  หรือจะแค่สงสัยก็แล้วแต่  หยุดเพื่อให้เวลาคนรับทราบข้อมูลหรือบริษัทแจ้งข่าวสาร
  2. บริษัทฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหรือข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์  ให้ข้อมูลเป็นเท็จ, ไม่นำส่งงบการเงิน, งบการเงินมีปัญหาผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็น, ฯลฯ 
  3. การดำเนินงานมีปัญหา  เช่นบริษัทเลิกกิจการ, ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์, มีการขายทรัพย์สินออกไปเกือบหมด, ขาดทุนสะสมจนส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่าศูนย์, ฯลฯ
  4. ดำเนินการใดๆที่ทำให้เกิดผลเสียร้ายแรงกับผู้ถือหุ้น

 

แนะนำให้ไปอ่านเพิ่มเติมเองที่

https://www.set.or.th/th/regulations/simplified_regulations/files/20191230_PossibleDelist_Grounds.pdf

https://www.set.or.th/th/products/trading/equity/tradingsystem_p9.html

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

วิธีคำนวณมูลค่า REIT วิธีไหนดีสุด ?

Best Way to Evaluate REIT Value

วิธีคำนวณมูลค่า REIT วิธีไหนดีสุด ?

ที่นิยมกันก็จะมีใช้ NAV กับ Discounted Dividend

Net asset value เป็นอะไรที่ REIT ต้องรายงานอยู่แล้ว  หลักการคือเอามูลค่าของทรัพย์สินทั้งหมดหักด้วยหนี้สินทั้งหมดก็ออกมาเป็นมูลค่าของ REIT ละ  และข้อดีคือ REIT นี่เค้าต้องทำการประเมินมูลค่าทรัพย์สินโดยบุคคลที่สามตลอดทุกปี  ดังนั้นตัวเลขมูลค่าทรัพย์สินมันก็จะค่อนข้างเป็นปัจจุบันไม่ใช่บันทึกตามราคาณ ตอนที่ซื้อแบบบริษัทปกติ

ส่วน Discount dividend หลักการก็แบบเดียวกับหุ้นนะ  คือคิดลดกระแสเงินสดที่เราคาดว่าจะได้จาก REIT ในอนาคตทั้งหมดมาเป็นมูลค่าวันนี้

ส่วนตัวผมว่าใช้ Discounted Dividend เลยครับ  ตรงประเด็นสุด  REIT นี่ตามกฎเค้าโดนบังคับให้ต้องจ่ายกำไรเกือบทั้งหมดออกมาเป็นปันผลอยู่แล้วด้วย  ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องคิดถึง free cash flow อะไรให้ยุ่งยาก

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

หาข้อมูล ETF ต่างประเทศยังไง ?

How to find information for foreign ETFs ?

หาข้อมูล ETF ต่างประเทศยังไง ?

มีคนถามประมาณนี้  ผมไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่พยายามจะหานี่คืออะไร  แต่ทั้งนี้ผมว่าเรื่องกองทุนมันไม่ได้มีอะไรมากก็เลยทำวีดิโอตอบแบบครอบคลุมละกัน

ไอเดียของการเลือกกองทุนรวมหรือ ETF จะในไทยหรือต่างประเทศผมว่ามันเหมือนกัน  และหัวข้อนี้เราเคยทำวีดิโอตอบไปแล้ว  ผมทิ้งลิ้งค์ไว้ให้ https://youtu.be/yRDYYol68vI

ทีนี้เรื่องการหาข้อมูล  สมมติเราเริ่มจากเราต้องการจะรู้ว่า ETF มีอะไรบ้าง  มันก็ทำได้โดย Google ตรงๆเลยครับ  หาคำประมาณว่า list of ETF in …(ประเทศที่เราต้องการ)…  หรือไม่อย่างนั้นผมก็แนะนำให้ใช้เครื่องมือเปรียบเทียบกองทุนของ Morningstar  เค้ามีแยกหมวด ETF ออกมาอยู่

แล้วต่อมา  สมมติเรามีกองทุน ETF ที่เราสนใจละ 2-3 ชื่อ  เราต้องการหาข้อมูลเพิ่มนอกเหนือจากที่เจอบนเวปของ Morningstar  สิ่งที่เราทำได้มากสุดก็คือไปที่เวปของผู้บริหารกองทุนนั้นๆเลยครับ  แล้วก็ไปอ่าน prospectus หรือพวกเอกสารที่สรุปสาระสำคัญต่างๆของกองทุน  นโยบายการลงทุน, ค่าธรรมเนียม, ผลตอบแทนย้อนหลัง, ผู้บริหารกองทุนเป็นใคร, ฯลฯ

จบละ  มันทำได้มากสุดแค่นี้แหละครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

Share Class มันคืออะไร ? ทำไมหุ้นบางบริษัทมีหลาย Class ?

What are Share Classes ? Why do some companies have multiple share classes ?

Share Class มันคืออะไร ? ทำไมหุ้นบางบริษัทมีหลาย Class ?

มีคนเห็นว่าหุ้น Alphabet มี Class A กับ Class C  เค้าถามว่ามันต่างกันยังไง

ต่างกันยังไงสมมติเราดูแค่ชื่อนี่คือไม่มีทางรู้ได้ครับ  มันไม่ได้มีหลักสากลอะไร  ต้องเปิดไปดูเวปของบริษัทปกติเค้าจะอธิบายไว้อยู่

เช่นอย่างกรณี Alphabet นี่  มันต่างกันตรงสิทธิในการออกเสียง

  • Class A คือ 1 หุ้น 1 โหวต
  • Class B คือ 1 หุ้น 10 โหวต
  • Class C คือ 1 หุ้น 0 โหวต

ส่วนกรณี Berkshire Hathaway มันต่างกันทั้งสัดส่วนความเป็นเจ้าของและสิทธิในการออกเสียง

  • Class A คือ 1 หุ้น 1 ส่วนความเป็นเจ้าของ 1 โหวต
  • Class B คือ 1 หุ้น 1/1500 ส่วนความเป็นเจ้าของ 1/10000 โหวต

อย่างที่เห็นคือมันแบ่งได้หลากหลายมาก  ดังนั้นเราต้องเช็คด้วยตัวเองเสมอว่ามันต่างกันยังไง  กรณีส่วนใหญ่การแบ่ง Class หุ้นเค้าทำไปเพราะเจ้าของเดิมอยากรักษาความสามารถในการควบคุมบริษัทเอาไว้  กำไรแบ่งกันไม่เป็นไร  ก็เลยเป็นที่มาว่างั้นเอางี้ละกัน  แทนที่จะมีหุ้นแบบเดียวที่มีสิทธิออกเสียงเท่ากัน  เปลี่ยนเป็นออกหุ้นให้มันมีมากกว่าแบบเดียว  อันนึงมีสิทธิในการออกเสียงควบคุมบริษัทมากกว่าส่วนอีกอันน้อยกวา

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

เราสามารถหามูลค่าที่แท้จริงของกองทุนได้มั้ย ?

Can we calculate intrinsic value of funds ?

เราสามารถหามูลค่าที่แท้จริงของกองทุนได้มั้ย ?

คำตอบคือไม่ได้ครับ

ต้องเข้าใจว่ากองทุนโดยตัวมันเองมันไม่ได้มีมูลค่าอะไร  มูลค่ามันมาจากทรัพย์สินที่กองทุนถือเท่านั้น  ดังนั้นถ้าเราจะหามูลค่าที่แท้จริงของกองทุนก็แปลว่าเราต้องคำนวณมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นและทรัพย์สินทั้งหมดที่กองทุนถืออยู่  ซึ่งเราไม่รู้  ปกติเราก็จะรู้แค่ 5 หรือ 10 อันดับทรัพย์สินที่กองทุนถือเยอะสุดแค่นั้น

แล้วสมมติต่อให้รู้ว่ากองทุนถืออะไรบ้างทั้งหมดเลย  การไปขยันนั่งคำนวณทั้งหมดก็ไม่มีประโยชน์อะไร  เพราะซักพักกองทุนก็อาจจะเปลี่ยนหุ้นที่ถือขายบางตัวออกซื้อบางตัวเพิ่ม  มันก็ทำให้มูลค่าที่แท้จริงเปลี่ยนไปละ

และเอาจริงๆก็ไม่รู้จะทำไปทำไมด้วยนะ  วัตถุประสงค์หลักของการถือกองทุนรวมคือเพื่อให้คนอื่นตัดสินใจลงทุนแทนเราและเราไม่ต้องเสียเวลาวุ่นวาย  ถ้าเราถึงกับจะต้องพยายามคำนวณอะไรแบบนี้งั้นเราน่าจะลงทุนเองจะดีกว่านะ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

คำนวณ P/E ยังไงให้ได้ตรงเวป SET

How to calculate P/E ratio to exactly match P/Es in SET

คำนวณ P/E ยังไงให้ได้ตรงเวป SET

คำถามคล้ายๆกับก่อนหน้านี้ที่ถามว่าคำนวณ EPS ยังไงนะ  เอาจริงๆผมว่ามันก็ไม่ได้เป็นสาระสำคัญอะไรที่เราต้องคำนวณให้ได้ตรง  แต่ในเมื่อมีคนถามเราก็ตอบครับ

ก่อนอื่น  เวป SET เค้ามีบอกอยู่แล้วว่าตัวเลขคำนวณมายังไง  https://www.set.or.th/set/education/glossary.do?contentId=138  อ่านแบบนี้ก็คือเรารู้ละว่าเค้าใช้กำไรต่อหุ้น 12 เดือนล่าสุดนะ  หรือก็คือ P/E (TTM)

ทีนี้เวลาคำนวณมันจะยุ่งยากนิด  ในตอนที่ทำวีดิโอนี่งบไตรมาส 2 ของปี 2564 ออกละ  ดังนั้นกำไร 12 เดือนล่าสุดที่เราต้องใช้ก็จะเป็นกำไรครึ่งปีนี้บวกกับกำไรครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว  ไม่ใช่กำไรทั้งปีของปีที่แล้วนะ  ตัวกำไรสุทธิครึ่งปีนี้ก็เอามาตรงๆจากงบการเงินไตรมาส 2 ปีนี้ได้  แต่กำไรครึ่งปีหลังปีที่แล้วนี่มันไม่มีตรงๆ  เราก็ต้องเอากำไรปีที่แล้วทั้งปีลบด้วยกำไรครึ่งปีแรกปีที่แล้วเราถึงจะได้กำไรครึ่งปีหลังปีที่แล้วครับ  หลังจากนั้นก็ไปหารกับจำนวนหุ้นได้เป็นกำไรต่อหุ้น 12 เดือนล่าสุด  แล้วเราก็เอาราคาตั้งหารด้วยเลขนั่นเท่านั้นเองครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

Scuttlebutt, Company Visit, Opportunity Day กับ ประชุมผู้ถือหุ้น เหมือนกันมั้ย อยากเข้าร่วมทำยังไง ?

What are the differences between Scuttlebutt ,Company Visit, Opportunity Day and Shareholders' Meeting ? And how to join them ?

Scuttlebutt, Company Visit, Opportunity Day กับ ประชุมผู้ถือหุ้น เหมือนกันมั้ย อยากเข้าร่วมทำยังไง ?

Scuttlebutt นี่มันเป็นอะไรที่เรียกกว้างๆมาก  company visit, opportunity day หรือประชุมผู้ถือหุ้นก็เป็นส่วนนึงของ scuttlebutt แหละ  ไอเดียของ scuttlebutt คือการหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่เราสนใจโดยการพยายามคุยกับคนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทให้ได้มากที่สุด  ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า, อดีตพนักงาน, พนักงาน, คนบริษัทคู่แข่ง, ซัพพลายเออร์, ฯลฯ  ทั้งนี้เพื่อพยายามเข้าใจอุตสาหกรรมและจุดเด่นหรือด้อยของบริษัทที่เรากำลังสนใจอยู่  company visit, opportunity day กับประชุมผู้ถือหุ้นก็เลยเป็นส่วนนึงของ scuttlebutt ครับ  แต่พวกนี้คือข้อมูลจะมาจากมุมของบริษัทอย่างเดียวเลยนะ

Company visit ก็ตามชื่อคือไปเยี่ยมบริษัท  ปกติอันนี้มันแล้วแต่นโยบายบริษัทเหมือนกันนะว่าเปิดรับผู้ถือหุ้นเข้าไปเยี่ยมชมหรือคุยกับผู้บริหารขนาดไหน  โดยปกติแล้วเราก็จะต้องรวมกลุ่มผู้ถือหุ้นหลายคนไปแหละให้มันเป็นสาระสำคัญมันก็จะมีโอกาสมากขึ้นที่เค้าจะเสียเวลามานั่งคุยกับเรา

Opportunity day นี่เป็นโครงการของตลาดหลักทรัพย์ให้บริษัทมีโอกาสสื่อสารคุยกับนักลงทุน  ที่เค้าจัดอยู่ก็จะเป็นไตรมาสละครั้ง  เนื้อหามันจะเป็นบริษัทพูดถึงผลประกอบการไตรมาสว่าเป็นไง  แล้วก็เปิดโอกาสให้นักลงทุนถามคำถามที่อยากรู้

ประชุมผู้ถือหุ้นนี่บริษัทเป็นคนจัด  จัดปีละครั้ง  ปกติก็จะมีสรุปผลการดำเนินงาน, แจ้งเรื่องการจ่ายปันผล, แต่งตั้งผู้สอบบัญชีอะไรพวกนั้น

ส่วนเรื่องว่าถ้าจะเข้าร่วมทำไง  Scuttlebutt นี่ก็ใครทำของใครของมันอยู่แล้ว  เราอยากทำก็เริ่มได้เลย  Company visit นี่ยากละ  มีเพื่อนผมเคยไปเข้าใจว่าเป็นกลุ่ม high net worth  นัดหมายกันยังไงไม่ทราบแต่เข้าใจว่าผ่านโบรกเกอร์  Opportunity day ก็มีอยู่บนเวป SET อยู่แล้ว  ส่วนประชุมผู้ถือหุ้นก็เป็นผู้ถือหุ้นก็ไปได้เลยครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี