เราจะรวยขึ้นจากความผิดพลาด (ตอนที่ 1)

How My Bad Investments Made Me Richer (Part 1)

Learn from my mistakes

ผมว่าการผิดพลาดนี่มันเป็นอะไรที่ดีมากเลยนะ  เมื่อมองย้อนกลับไปผมว่า บทเรียนใดๆที่ได้จากการพลาดนี่จำแม่นที่สุดเลย (พูดได้แบบนี้เฉพาะตอนมองย้อนนะครับ  ไอ้ตอนพลาดนี่ไม่สนุกเลย)

ผมเลยอยากเล่าว่าความผิดพลาดต่างๆเหล่านั้นสอนอะไรผมบ้าง  ทำให้การลงทุนปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร  และในกรณีที่เกิดพลาดอย่างอื่นอีกในอนาคตเราควรจะทำอย่างไรกันดี

เนื่องจากเรื่องที่พลาดนี่มีเยอะหลากหลายเหลือเกิน  ผมพูดถึงอันหลักๆก็น่าจะพอละ  พูดถึงเยอะไปก็เขิน

Case 1            ซื้อเพราะข่าวลือหรือคนบอกมา

อันนี้เป็นสมัยแรกๆเลย  เคยซื้อ MINT กับ ESSO ตามความรู้สึกตามข่าวลือล้วนๆ  ช่วงนั้นพอดีเป็นช่วงหลังวิกฤติ 2008 ก็เลยไม่ได้ขาดทุนอะไร  แต่ลงทุนอยู่ 5 ปีกำไรทั้งหมด 20%  ซึ่งถือว่าเลวร้ายมากเพราะตลาดหุ้นช่วงนั้นขึ้นเป็นเท่าตัว  คนอื่นเค้ากำไรเป็นกอบเป็นกำ  ขนาดคนลงทุนสุ่มๆยังกำไรเลย  แต่เงินลงทุนผมนี่โตพอๆกับฝากธนาคารเลยครับ

สิ่งที่เรียนรู้จากเรื่องนี้คือซื้ออะไรตามๆชาวบ้านนี่ไม่ดีเลย  ไม่ใช่ว่ามันกำไรไม่ดีหรืออะไรนะ  แต่เป็นเพราะเวลากำไรหรือขาดทุน  เราจะไม่รู้เลยว่าทำไมเกิดอะไรขึ้น  ที่ไม่รู้เลยเพราะมันไม่รู้ตั้งแต่แรกละว่าทำไมถึงซื้อ

Case 2            ซื้อหุ้นโดยไม่ได้เข้าใจกิจการของบริษัท

คลาสสิกมาก  อันนี้ต้องยกให้กรณี TIPCO เลย  ซื้อโดยไม่ได้ดูเลยว่ารายได้กิจการมาจากเรื่องหลักๆอะไรบ้าง  สนใจแต่ว่าเค้าทำน้ำผลไม้อย่างเดียว  ซึ่งก็จริงที่เค้าทำเครื่องดื่มน้ำผลไม้  แต่ปรากฎว่ามันมีทำส่งออกผลไม้กระป๋องอยู่เป็นสัดส่วนใหญ่พอสมควร  พอปีฝนไม่ตกผลผลิตไม่ได้  กำไรหดวูบไปถึงขาดทุน  ผลประกอบการขึ้นๆลงๆ  กรณีนี้ถือหุ้นอยู่นานถึงเกือบ 5 ปีที่เดียว  สรุปขายไปเท่าที่ซื้อมา  ไม่มีกำไรเลยซักบาท  ฝากธนาคารยังรวยกว่าเลย

หลังจากนั้นเข็ดเลยครับ  ไม่เคยซื้อหุ้นบริษัทไหนโดยไม่อ่านข้อมูล  อย่างน้อยสุดก็ต้องรายงานประจำปีให้เห็นภาพรวมธุรกิจก่อนทุกครั้ง

Case 3            ซื้อหุ้นโดยอ่านงบการเงินอย่างเดียว  ไม่ได้ติดตามข่าวสารอะไรเลย

เคสนี้ก็คลาสสิก  ช่วงนึงด้วยความอินกับการอ่านงบการเงินมาก  ตัดสินใจซื้อหุ้น NBC โดยไม่ได้ตามข่าวอย่างละเอียดว่าเค้าจะออกหุ้นเพิ่มเท่าไหร่ยังไง  เรียกว่าโง่ไปเลยครับ  เพราะประเมินมูลค่าแม่นยำทุกอย่าง  ศึกษาเรทติ้งรายการ  ศึกษาเกี่ยวกับช่องที่เค้าทำ  รายได้โฆษณา ฯลฯ  แต่สุดท้ายซื้อผิดราคาเพราะไม่รู้ว่าเค้ากำลังจะออกหุ้นเพิ่มทุนมากี่หุ้น  จะมีการเจือจางเกิดขึ้นแค่นี่ไม่ได้ศึกษาให้ดี  โง่สุดๆเลยเคสนี้  สุดท้ายขาดทุนไป 20% กว่าได้ทั้งที่ทำการบ้านมาดี  ช็อกไปเลยครับตอนรู้ว่าเค้าออกหุ้นเพิ่มจำนวนหุ้นเป็น 3 เท่า

เรื่องนี้ก็สอนผมว่า  ต่อจากนี้ไม่ตามเหตุการณ์ไม่ได้  คิดว่าตัวเราอ่านงบการเงินได้ดีกว่าชาวบ้านแล้วซ่าส์นี่ไม่ได้เลย  โดยเฉพาะเรื่องออกหุ้นเพิ่ม  ออกวอร์แรนต์เพิ่ม  กู้เงินเพิ่ม  อะไรพวกนี้นี่ละเลยไม่ได้จริงๆ

จริงๆมีอีกกรณีอื่นอีกเหลือเฟือเลยนะ  แต่เขียนมา 3 เรื่องนี่ก็รู้สึกอนาถพอสมควรละ

ผมพบว่าเมื่อเราเกิดความผิดพลาดขี้น  สิ่งสำคัญที่วัดเลยว่าเราจะประสบความสำเร็จหรือเปล่าคือเราจะทำอย่างไรเมื่อเกิดความผิดพลาดนั้นขึ้นต่างหาก  เราเรียนรู้อะไรบ้าง  หรือเราจะแก้ไขเหตุการณ์นั้นอย่างไร  เดี๋ยวในตอนต่อไปผมจะคุยต่อว่า  เราควรคิดไปในทิศทางไหน  ทำยังไงไม่ให้เราพลาดฟรีๆ  อาจเป็น 4 คำถามที่พลิกความผิดพลาดชั่วคราวเราเป็นกำไรชั่วโคตรได้เลยครับ