หุ้นทุนซื้อคืน 2

Share Buybacks (Part 2)

เมื่อเราเข้าใจแล้วว่า  การที่บริษัทซื้อหุ้นคืนมีผลตรงข้ามกับการออกหุ้น  ซึ่งคือทำให้จำนวนคนหารน้อยลง  และทำให้จำนวนหุ้นที่เรามีอยู่เดิมมีสัดส่วนความเป็นเจ้าของเพิ่มขึ้น  ฟังดูดีมากเลย  แต่มันเป็นเรื่องดีจริงหรือไม่  เราคุยกันต่อในบทความนี้

แล้วมันดีมั้ย

ตอบชัดๆเลยว่า  อาจจะดีหรืออาจจะไม่ดีก็ได้  มันแล้วแต่ราคาที่บริษัทซื้อหุ้นคืนมาว่าแพงมากมั้ย  หรือว่าซื้อคืนมาได้ถูก  พิจารณาจากตัวอย่างอันเดิม

บริษัทกำไรปีละ 100 ล้าน

จากผู้ถือหุ้น 5 คน  ซื้อหุ้นคืนมาจากหนึ่งคน  เหลือผู้ถือหุ้น 4 คน

แปลว่ากำไรต่อคนสำหรับผู้ถือหุ้นที่เหลืออยู่  จากได้ปีละ 20 ล้าน  ก็จะเพิ่มเป็นปีละ 25 ล้าน

สมมติว่าการซื้อหุ้นคืนมา  บริษัทใช้เงินสดไป 250 ล้าน  โดยใช้จากกำไรสะสมที่บริษัททำมา

จากมุมมองของผู้ถือหุ้นหนึ่งคน  กำไรสะสม 250 ล้านนั้นเป็นของเค้าแค่ 1 ใน 5  คือ 50 ล้าน

หลังจากซื้อหุ้นคืนแล้ว  กำไรต่อปีของผู้ถือหุ้นหนึ่งคนเพิ่มขึ้น 5 ล้าน

แปลว่า  การซื้อหุ้นคืนนี้  เท่ากับการเอาเงินของผู้ถือหุ้นไปทำให้เกิดกำไรคิดเป็นผลตอบแทน 10%

ซึ่งถือว่าดีเลยแหละ  ดังนั้นการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้ดีต่อผู้ถือหุ้นที่เหลืออยู่

แต่สมมติการซื้อหุ้นคืนใช้เงินสดไป 1,000 ล้าน

จากมุมมองของผู้ถือหุ้นหนึ่งคน  กำไรสะสม 1,000 ล้าน  เป็นของเค้า 1 ใน 5 คือ 200 ล้าน

หลังจากซื้อหุ้นคืนแล้ว  กำไรต่อปีของผู้ถือหุ้นหนึ่งคนเพิ่มขึ้น 5 ล้าน

แปลว่า  การซื้อหุ้นคืนนี้  เท่ากับการเอาเงินของผู้ถือหุ้นไปทำให้เกิดกำไรคิดเป็นผลตอบแทน 2.5% เอง

จะเห็นได้ว่า  ดีหรือไม่ดี  ขึ้นอยู่กับราคาที่ซื้อหุ้นคืน  อย่างกรณีแรกนี่เป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้น  ถือว่าการซื้อหุ้นคืนเป็นประโยชน์  แต่กรณีที่สองนี่ไม่ดีละ  เพราะถ้าต้องใช้เงินขนาดนี้ซื้อหุ้นคืน  สู้จ่ายเป็นปันผลออกมา 1,000 ล้าน  หรือคือ 200 ล้านต่อคน  แล้วให้ผู้ถือหุ้นเอาปันผลไปลงทุนในกองทุนรวม  ได้ผลตอบแทนซัก 6-8% ก็ยังดีกว่า 2.5% เยอะ  ดังนั้นแปลว่าถ้าบริษัทที่เราสนใจมีการซื้อหุ้นคืน  เราก็ต้องไปพิจารณาว่าเค้าซื้อหุ้นคืนในเวลาที่หุ้นราคาถูกมั้ย  หรือซื้อตอนหุ้นแพง

คำถามต่อไปคือ  แล้วทำไมบริษัทในอเมริกา  ชอบซื้อหุ้นคืนกันจัง  บางบริษัทนี่ตั้งงบซื้อหุ้นคืนเป็นพันล้านเหรียญ  เค้าทำไปเพื่ออะไร  ซึ่งเราจะมาคุยกันต่อตอนหน้า