สรุปว่า “ความเสี่ยง” คืออะไร

Risk 1 : Understanding It

การลงทุนในหุ้น  สุดท้ายคือเรากำลังเล่นกับอนาคต  และเพราะไม่มีใครรู้อนาคต  ความเสี่ยงเลยเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  ลงทุนในหุ้นแล้วกำไรไม่ยาก  บางทีซื้อมั่วยังกำไรได้เลยครับ  แต่การจะให้กำไรได้สม่ำเสมอไปนานๆมันต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี  และขั้นตอนแรกเลยคือเราต้องเข้าใจก่อนว่ามันคืออะไร

สมัยตอนผมเรียนในมหาวิทยาลัยเค้าจะสอนว่า  ความเสี่ยงวัดจากการเปลี่ยนแปลงรุนแรงของราคา  หุ้นที่ราคาเปลี่ยนแปลงรุนแรงเมื่อเทียบกับตลาดคือมีความเสี่ยงเยอะ  สำหรับคนที่เรียนไฟแนนซ์มาอันนี้ก็คือพวกเรื่อง Standard Deviation (SD) กับ  (beta) นั่นแหละ

แต่หลังลงทุนมาซักระยะผมไม่เห็นด้วยกับไอเดียนี้เท่าไหร่ละ  จากมุมมองผมคือนักวิชาการเค้าพยายามหาค่าอะไรซักอย่างที่วัดได้คำนวณได้มาใช้  เลยตกลงกันว่าใช้การเปลี่ยนแปลงของราคาเนื่องจากมันวัดได้  ไม่ใช่เพราะมันเท่ากับความเสี่ยงนะ  แค่ว่าความเสี่ยงจริงมันวัดยาก  ส่วนไอตัวการเปลี่ยนแปลงของราคามันวัดง่ายเฉยๆ

ปัญหาคือ  นักลงทุนส่วนใหญ่เค้าไม่ได้สนใจ  “การเปลี่ยนแปลงรุนแรงของราคา”  ผมยังไม่เคยเจอนักลงทุนคนไหนบอกว่า “เค้าจะไม่ซื้อหุ้น A นะ เพราะหุ้น A ราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงรุนแรงกว่าตลาด”  ที่ผมเห็นคือคนจะกังวลเพราะเค้ากลัวว่าลงทุนไปแล้วจะเสียเงินมากกว่า  คนบอกว่า “เค้าจะไม่ซื้อหุ้น A นะ  เพราะดูแล้วโอกาสจะขาดทุนสูงกว่าโอกาสจะกำไร”  โดยสรุปคือคนเค้าไม่ได้กลัวเรื่อง “ราคาเปลี่ยนแปลงรุนแรง”  คนกลัวลงทุนแล้ว  “เสียเงิน” ต่างหาก

ในสถานการณ์ปกติ  นี่คือหลักการเกี่ยวกับความเสี่ยง

risk-1

  1. ความเสี่ยงเป็นเรื่องไม่ดี

นักลงทุนที่มีสติควรจะพยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

  1. ในการเลือกลงทุน ความเสี่ยงกับผลตอบแทนต้องสอดคล้องกัน

เนื่องจากตลาดโดยปกติคนไม่ชอบความเสี่ยง  ดังนั้นโดยหลักการ  การที่คนจะยอมรับเสี่ยงมากขึ้น  การลงทุนนั้นมันต้องมีโอกาสทำผลตอบแทนที่สูงขึ้น  เช่น  ถ้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้ผลตอบแทน 2%  กับการซื้อหุ้นบริษัท Z คาดหวังผลตอบแทน 2% เท่ากัน  คนในตลาดก็ควรจะขายหุ้นบริษัท Z  แล้ววิ่งไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล  เพราะพันธบัตรรัฐบาลความแน่นอนว่าจะได้เงินดีกว่าหุ้น Z และผลตอบแทนเท่ากัน  จนทำให้ราคาหุ้น Z ต่ำลง  ส่วนราคาพันธบัตรแพงขึ้น  จนไปหยุดเมื่อผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลต่ำลงกับของหุ้น Z สูงขึ้น  ถึงจุดที่คนมองว่าส่วนต่างผลตอบแทนคุ้มค่าที่จะเสี่ยงกับหุ้น Z

  1. ในการพิจารณาผลตอบแทนที่เกิดขึ้น ดูผลตอบแทนอย่างเดียวไม่พอ  ต้องดูความเสี่ยงประกอบด้วย

เช่น  สมมติกองทุนที่เราลงทุนปีนี้กำไร 10%  จะบอกว่าเค้าทำได้ดีหรือเปล่าเราต้องถามว่า  ผลตอบแทนที่ได้มานี้  ได้มาจากความเสี่ยงแค่ไหน  มาจากการลงทุนในตราสารหนี้หรือมาจากหุ้น  มาจากหุ้นบริษัทใหญ่ที่กิจการสม่ำเสมอหรือมาจากบริษัทเล็กเพิ่งตั้ง  มาจากหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องหรือมาจากลงทุนในทรัพย์สินที่ขายออกยาก  มาจากการใช้เงินกู้เยอะหรือไม่ใช่เงินกู้เลย  มาจากพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยงหรือมาจากพอร์ตที่ลงทุนกระจุกอยู่ในบริษัทประเภทเดียว

วันนี้เอาเท่านี้ก่อน  อันนี้เป็นปูพื้นฐานไอเดียเกี่ยวกับความเสี่ยง  ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาขยายความเพิ่มเติมในบทความต่อไปครับ