Brexit : แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรามั้ย?

Brexit (Part 3) - What Does It Have To Do With Us

เกี่ยวแน่นอนครับ  แต่ไม่ใช่ในฐานะที่มันจะมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย  หรือเกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานอะไรของเรา  มันเกี่ยวเพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้มันอาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนอย่างเราถ้าพวกเราเตรียมพร้อม

ที่ว่า Brexit จะมีผลทำให้เศรษฐกิจโลกแย่ลงมั้ย  จะทำให้สหภาพยุโรปแตกออกจากกันหรือเปล่า  มันเป็นอะไรที่ยังไงเราก็ไม่มีทางรู้  และมันเป็นอะไรที่เราควบคุมไม่ได้  ดังนั้นความกังวลในลักษณะนี้จึงไม่มีประโยชน์อะไรกับเรา

สิ่งที่เราควรนึกถึงคือ  เวลามันมีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้คนตกใจ  แล้วตลาดหุ้นตกหรือราคาหุ้นตกรุนแรง  มันอาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเรา  อยากให้ลองมองย้อนกลับไปดูว่าที่ผ่านมาเมืองไทยเองเวลาที่มีหุ้นตกหนักๆ  ถ้าเราเป็นคนหนึ่งที่ลงทุนในช่วงเวลานั้น  ตอนนี้เราจะรวยขนาดไหนแล้ว  นึกถึงช่วงปี 2008 ที่มีเรื่อง Subprime  ช่วงนั้นหุ้นตกรุนแรงและดูน่ากลัว  SET ลงไปต่ำสุดถึงแถว 400 จุด (ทั้งที่เรื่องมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบ้านเราเลย)  ถ้าเราได้ลงทุนช่วงนั้นตอนนี้เรากำไรขนาดไหนแล้ว

เมื่อเห็นว่าเป็นโอกาส  และเราเลิกกังวลแล้ว  ผมมีคำแนะนำดังต่อไปนี้

  1. เริ่มจากปลอดภัยสุดก่อน มองหาหุ้นที่อยู่ในประเทศไม่เกี่ยวเลย

ถ้าเป็นไปได้เราอยากซื้อหุ้นบริษัทดีๆที่ราคาตกเยอะๆ  โดยที่บริษัทเหล่านั้นไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  เช่นหุ้นในไทยเป็นต้น  บริษัทในไทยมีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของประเทศอังกฤษน้อยมาก  ดังนั้นถ้าราคาหุ้นตกมาก็จะเป็นอะไรที่เราควรสนใจ  ข้อดีคือเราซื้อนี่กำไรแน่นอนเพราะที่ราคาตกมาจากคนตกใจล้วนๆ  แต่โอกาสยากนิดนึงเพราะคนอาจจะไม่ได้ตกใจมากพอให้เราฉวยโอกาสได้

  1. ตามมาด้วยที่ปลอดภัยน้อยมาหน่อย คิอพวกหุ้นในโซนยุโรปที่ไม่ใช่อังกฤษ

อันนี้ตื่นเต้นขึ้นมาอีกนิดนึง  คือเรามองหาหุ้นในประเทศใกล้จุดเกิดเหตุมากขึ้น  เช่นหุ้นในสวิสเซอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมันหรืออะไรประมาณนี้  (วันที่รู้ผลว่าอังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป  หุ้นโซนนี้ตกเยอะเหมือนกัน  แต่ ณ วันที่เขียนนี้มันราคามันฟื้นมาเกือบหมดละ)  บริษัทในประเทศเหล่านี้มีการค้าหรือมีความเกี่ยวข้องกับอังกฤษก็จริง  แต่ผลกระทบส่วนใหญ่น้อยมาก  ดังนั้นก็ถือว่าปลอดภัยมากเช่นกัน  หุ้นในกลุ่มพวกนี้ส่วนตัวผมว่าน่าสนใจสุดละ  เพราะมันใกล้พอที่ถ้าเกิดอะไรขึ้นคนจะตกใจและราคาหุ้นจะตกเยอะ  ในขณะเดียวกันตัวกิจการก็ไม่น่าจะมีผลกระทบเท่าไหร่ด้วย

  1. และแน่นอนที่น่าสนใจมากแต่เสี่ยงนิดนึงก็คือ หุ้นในประเทศอังกฤษ

พยายามมองหากิจการที่ไม่ค่อยน่าจะมีผลกระทบอะไรกับเหตุการณ์นี้  เอาธุรกิจที่ยังไงคนก็ยังต้องใช้อยู่ดีไม่ว่าอังกฤษจะอยู่ในสหภาพยุโรปหรือไม่  เช่นบริษัทค้าปลีกสินค้าประเภทต่างๆ, บริษัทกลุ่มอาหารเครื่องดื่ม, ฯลฯ  พวกนี้อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง  แต่ในระยะยาวแล้วผลกระทบต่อกิจการพวกนี้ไม่ควรจะรุนแรงอะไรนักหนา  ดังนั้นก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเรา

  1. หรือสำหรับคนชอบความตื่นเต้น มองหาหุ้นในประเทศอังกฤษที่ได้รับผลกระทบ

ประเด็นที่น่าจะกระทบแน่ๆของ Brexit ก็คือเรื่องที่ธนาคารในอังกฤษอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้จัดการเงินยูโรได้อิสระเหมือนแต่ก่อน  กับเรื่องที่อังกฤษไม่อนุญาตให้คนจากสหภาพยุโรปเข้าออกหรือมาทำงานได้อิสระเหมือนเดิม

และดังนั้นธุรกิจที่น่าจะได้รับผลกระทบโดยตรงก็อย่างเช่น  กลุ่มธนาคาร, กลุ่มท่องเที่ยว, กลุ่มสายการบิน  หรือกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า

โอกาสสำหรับเราคือ  หุ้นบริษัทเหล่านี้อาจจะตกรุนแรงเกินเหตุได้  โอเคล่ะมันได้รับผลกระทบโดยตรง  แต่ต้องอย่าลืมว่าที่ประเทศอังกฤษเป็นศูนย์กลางการเงินอันหนึ่งของโลกไม่ใช่เป็นเพราะอยู่ในสหภาพยุโรป  แต่เป็นเพราะอังกฤษมีแรงงานที่มีความรู้ด้านการเงิน, กฎหมาย  หรือพวกเฉพาะทางพวกนี้เยอะกว่าประเทศอื่นมาก  ดังนั้นก็จะยังคงเป็นประเทศที่มีความสำคัญอยู่แน่นอน  การที่หุ้นกลุ่มนี้ตกรุนแรงมากเกินไป  ก็อาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่จะทำกำไรเยอะๆได้หลังจากที่คนเลิกตกใจครับ

เมื่อรู้แบบนี้จะรออะไรอยู่  ผมแนะนำให้พวกเราเตรียมศึกษากิจการที่อยากเป็นเจ้าของไว้เลย  เรื่องแบบนี้มันเป็นโอกาสที่เราจะรวยครับไม่ใช่อุปสรรค