Negative P/E หมายความว่ายังไง แล้วดูยังไง ?

What does negative P/E mean and how to interpret it?

Negative P/E หมายความว่ายังไง แล้วดูยังไง ?

Negative P/E หมายความว่ายังไง แล้วดูยังไง ?

คำถามนี้ง่าย เอาหมายความว่ายังไงก่อน

P/E มันคือ ราคาหุ้นหารด้วยกำไรต่อหุ้นใช่มะ ราคาหุ้นนี่มันไม่มีทางติดลบอยู่ละอย่างต่ำสุดก็คือ 0 ดังนั้นการที่ P/E มันจะเป็นเลขติดลบ ก็คือกำไรต่อหุ้นเป็นเลขติดลบน่ะครับ หรือก็คือบริษัทผลประกอบการขาดทุน ความหมายมันก็คือแค่นี้แหละ

ทีนี้ดูยังไง

เอาจริงๆคือไม่มีความหมายอะไร ตัวเลขนี้ไม่ได้ว่าติดลบเยอะแล้วดีหรือติดลบน้อยแล้วดีหรืออะไร ในทางปฏิบัติคือมันห่วยหมดน่ะ สมมติเรามีความสนใจในตัวบริษัทจะด้วยชอบธุรกิจหรืออะไรก็แล้วแต่แล้วมาเห็นเลข P/E ติดลบ สาระสำคัญที่เราควรใส่ใจก็คือไปทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สาเหตุที่บริษัทขาดทุนมันคืออะไรนะ แล้วมันจะดีขึ้นมั้ย P/E จะหายเป็นลบมั้ย

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

ถ้าต้องถือหุ้นเดียวเลยถือหุ้นอะไร ?

What one stock will I buy if I have to hold it forever?

ถ้าต้องถือหุ้นเดียวเลยถือหุ้นอะไร ?

มีคนถามว่าสมมติผมต้องถือหุ้นเดียวเลยไปยาวๆจะถือหุ้นอะไร

เอาจริงๆอันนี้ยากนะ ผมก็ชอบหลายบริษัทแต่พอโจทย์คือต้องหุ้นเดียวยาวนี่ทำให้ยากเพราะเราก็รู้ว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลง ธุรกิจที่ดีวันนี้อนาคตอาจจะตกยุคตายไปก็ได้

ดังนั้นถ้าต้องหุ้นเดียวจริงๆ มั่นใจสุดคงเป็น Berkshire Hathaway มั้ง แน่นอน Warren Buffet อาจจะไม่ได้อยู่ไปตลอด แต่ด้วยความที่ตอนนี้ Berkshire Hathaway เป็น Holdings Company ที่มีบริษัทลูกในกลุ่มที่ทำได้ดีจำนวนมาก และมีถือหุ้นบริษัทที่ดีที่อยู่ในตลาดหุ้นอีก โอกาสที่จะเละเทะก็จะยากหน่อย

อันนี้เอามาให้ดู ตัวอย่างบริษัทที่เป็นบริษัทลูก ไม่แน่ใจว่าครบมั้ยนะ

ส่วนนี่ก็จะเป็นตัวอย่างบริษัทที่เค้ามีถือหุ้น อันนี้จะเปลี่ยนแปลงบ่อยหน่อย ดังนั้นเช่นกันอาจจะไม่ครบหรือมีการเปลี่ยนแปลง

แล้วที่ผ่านมาเค้าก็ทำได้ดีนะ

บางคนบอกหุ้น Berkshire Hathaway แพงมากซื้อไม่ไหว แนะนำให้ซื้อ Class B ครับ ราคาจะเป็นประมาณ 1 ใน 1,500 ของ Class A สัดส่วนความเป็นเจ้าของในแง่ส่วนแบ่งกำไรจะเหมือนซอยย่อย Class A ลงมาเป็น 1 ใน 1,500 สอดคล้องกับราคาหุ้น ที่แย่กว่าคือเรื่องสิทธิในการโหวตเท่านั้นเอง จะเป็น 1 ใน 10,000 ของ Class A ซึ่งเอาจริงเราก็คงไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

Peter Lynch & Howard Marks มองอนาคตยังไง ?

What is the economic outlook from Peter Lynch and Howard Marks perspective?

Peter Lynch & Howard Marks มองอนาคตยังไง ?

ล่าสุดมีนักเรียนส่งวีดิโอบน YouTube 2 อันมาให้ดูแล้วถามขอให้อธิบายมุมมองของนักลงทุนในตำนานที่อยู่ในวีดิโอพวกนั้น

อันแรกจะเป็น https://www.youtube.com/watch?v=edDe4K3QcWc
เป็นวีดิโอของ Bloomberg สัมภาษณ์ Howard Marks

เรื่องหลักๆคือเค้าบอกว่า
– ช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่หลังวิกฤติปี 2008 มาถึง 2021 Fed ลดอัตราดอกเบี้ยต่ำมากและทำ QE ช่วงนี้เป็นช่วงที่ธุรกิจทำกำไรได้ง่ายเพราะเงินทุนหาง่าย การผิดนัดชำระหนี้ก็น้อย เป็นช่วงที่ easy
– เร็วๆนี้เงินเฟ้อสูง Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำธุรกิจให้กำไรก็ยากขึ้น
– คนถามเค้าว่า เมื่อไหร่จะกลับไปสู่ช่วงก่อนที่มันง่ายเหมือนเดิม เค้ามองว่าอาจจะไม่กลับไป easy เหมือนเดิมนะ ช่วงนั้นมันผิดปกติ อนาคตต้นทุนเงินจะไม่ต่ำเหมือนเดิม, การทำธุรกิจจะไม่ง่ายเหมือนเดิม

ส่วนอันที่สองนี่จะเป็น https://youtu.be/U-6fv09KCDw
เป็นวีดิโอของ CNBC สัมภาษณ์ Peter Lynch

หลักๆคือเค้าบอกว่า
– เค้าก็พูดเหมือนเดิม วิธีการลงทุนเค้าคือ มองหาเหตุผลว่าทำไมบริษัทควรจะทำได้ดี แล้วก็ดู balance sheet ของบริษัท ดูว่ามีหนี้เยอะมั้ย ทุกคนควรจะทำได้
– มีคนถามความเห็นเกี่ยวกับที่ธนาคารล้มในช่วงที่ผ่านมา Peter Lynch บอกก่อนหน้านี้ก็มีธนาคารล้ม มีความกังวลอื่นๆเยอะแยะ ปัจจุบันธนาคารเข้มแข็งขึ้นเยอะ
– สุดท้ายคือเค้าถามว่าอนาคตจะมีปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจมั้ย Peter Lynch ก็บอกไม่รู้อนาคต ที่ผ่านมามีวิกฤติเศรษฐกิจก็ฟื้นกลับมาทำได้ดีตลอดนะ

โดยสรุปคือ Howard Marks คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ธุรกิจจะไม่ง่ายเหมือนช่วงก่อน ส่วน Peter Lynch ดูเฉยๆ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

ควรจ่ายสมัคร membership เพื่ออ่านบทวิเคราะห์มั้ย ?

Should we pay to subscribe to these membership programs?

ควรจ่ายสมัคร membership เพื่ออ่านบทวิเคราะห์มั้ย ?

มีคนมีคำถามเวปอย่างพวก Morningstar, Value Line, Bloomberg, ฯลฯ มีบริการที่เป็นบทวิเคราะห์ที่เราต้องจ่ายเงิน subscribe ถึงจะอ่านได้ พวกนี้มีประโยชน์หรือเปล้่า ควรจ่ายมั้ย

เป็นคำถามที่ดี ผมตอบในมุมว่ามีประโยชน์หรือไม่ก่อนนะ

คำตอบคือมีประโยชน์ครับ ในแง่ว่า
– บางเจ้าก็จะเป็นแหล่งไอเดียได้
– เอาไว้อ่านประกอบเป็น second opinion หลังจากเราทำการศึกษาได้

ข้อจำกัดก็มีอยู่คือ
– ไอเดียบางบริษัทที่ผมลงทุนไป ก็ไม่มีใครพูดถึงหรือพูดถึงน้อยมาก
– Research ก็ไม่ได้มีทุกบริษัทเช่นกัน หลายครั้งบริษัทที่ผมสนใจไม่มีนักวิเคราะห์เขียนถึง

แต่ทีนี้คำถามคือควรจ่ายมั้ย อันนี้ผมว่าขึ้นอยู่กับขนาดเงินลงทุนเราละ แล้วรองลงมาก็เป็นว่าเราลงทุนอย่างไรจะได้ใช้ประโยชน์อะไรหรือเปล่า

ว่าง่ายๆ ตัวอย่างเช่น Morningstar นี่ 249 USD ต่อปี ตีเป็นบาทก็คูณ 34 ละกัน เท่ากับ 8,466 บาท หรืออย่าง Bloomberg คือ 299 USD ต่อปี เป็นบาทก็ 10,166 บาท

ถ้าเงินลงทุนเรา 100,000 บาท การสมัครก็เป็นอะไรที่เพี้ยนมาก เพราะ 8,000-10,000 บาทนี่มัน 8-10% ของเงินทั้งพอร์ตเลยถูกมะ

แต่ถ้าสมมติเรามีเงินลงทุน 1,000,000 บาท การสมัครก็ดูสมเหตุสมผลมากขึ้น เพราะค่า membership มันแค่ 0.8-1% ของเงินทั้งพอร์ตเราเท่านั้น ดังนั้นก็อาจจะควรสมัครถ้าเราดูว่าเราจะได้ใช้ แต่ถ้าไม่ได้ใช้ 1% ของพอร์ตก็ยังแพงอยู่ดี

แล้วถ้าเรามี 10,000,000 บาทล่ะ membership ก็จะเป็นอะไรขี้ประติ๋วมากทันที แต่ให้นานๆทีใช้งานจะสมัครไว้ขำๆก็ไม่เดือดร้อนอะไร

ที่เหลือคือต้องถามว่าเราลงทุนแบบไหน ดูจะได้ใช้ประโยชน์หรือเปล่า ถ้าสมมติเราลงทุนแบบกองทุนหรือ ETF ต่างประเทศ ก็ไม่ต้อง หรือเราลงทุนเน้นหุ้นไทย ก็ไม่ต้อง

คำถามสุดท้ายคือ จำเป็นมั้ยที่ต้องมี membership พวกนี้เพื่อให้ลงทุนได้ดี ?

ผมยืนยันว่าไม่ต้อง ที่ผ่านมาก็ใช้ข้อมูลฟรีมาโดยตลอด แล้วก็มาใช้ Bloomberg ของที่ทำงานเมื่อปีที่แล้วนี้เอง

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

ต้องถือยาวให้ได้ !!

Must hold long term

ต้องถือยาวให้ได้ !!

ต้องถือยาวให้ได้ !!

ผมพบว่าอุปสรรค์สำคัญอันนึงที่ทำให้ลงทุนแล้วไม่ค่อยประสบความสำเร็จ แม้กระทั่งกับนักลงทุนที่รู้เรื่องแล้ว ก็คือไม่สามารถทำใจถือยาวได้ แล้วมันมีทั้งสองด้านด้วยนะ หุ้นขึ้นก็ขาย หุ้นลงก็ขาย

ปัญหาเรื่องนี้ก็ดูจะมาได้หลายรูปแบบ บางคนตอนซื้อก็ดูมีสติดีอยู่ แต่ซักพักอาจจะตกใจขายตอนตลาดหุ้นตก ทั้งที่บางทีบริษัทที่ตัวเองถืออยู่ได้รับผลกระทบน้อยมาก หรือบางคนก็เป็นลักษณะเปลี่ยนใจไปซื้ออย่างอื่นดีกว่า จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ผมพบว่ามีนักเรียนเราจำนวนมากที่ถือยาวไม่ค่อยได้

พอผม Google เรื่องนี้ ปรากฎว่าเป็นกันทั้งโลกนะเนี่ย ไม่ใช่เฉพาะนักเรียนพวกเราหรือคนไทยหรืออะไร

จากใน chart นี้จะเห็นว่า เฉลี่ยแล้วคน US เองก็ถือหุ้นสั้นลงเรื่อยๆ จากในอดีตนู้นถือหุ้นเฉลี่ยนาน 8 ปี ตอนนี้เหลือไม่ถึงปีละ

ส่วนของไทยก็ดูจะคล้ายกัน ผมไปดูข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์จากลิ้งค์นี้ https://www.set.or.th/th/market/statistics/market-statistics/main ข้อมูลสถิติสำคัญของ SET และ mai แบบรายปี แล้วเอามูลค่าหลักทรัพย์ทั้งตลาดตั้งแล้วหารด้วยตัวเลขมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในปี เราก็จะได้ turnover พบว่าของไทยจะอยู่ประมาณ 0.9-1.1 ปี สั้นพอกัน

ประเด็นสำคัญของการถือยาวไม่ได้คือผลตอบแทนมันแย่ลงเยอะมากครับ การที่เราอยู่ในหุ้นสั้นๆมันเหมือน handicap เยอะมาก เพราะในระยะยาวแล้วโดยเฉลี่ยหุ้นภาพรวมมันเป็นทิศทางขาขึ้นครับ

การที่ทิศทางมันเป็นขาขึ้นได้ แปลว่าเฉลี่ยผลตอบแทนต่อวันระยะยาวแล้วมันเป็นบวกนึกภาพออกมะ ดังนั้นก็พูดได้ว่าโดยเฉลี่ยการที่เราไม่อยู่ในหุ้น เท่ากับเราเสียโอกาส ดังนั้นยิ่งใครอยู่นอกตลาดถือเงินสดเยอะหรือถือเงินสดนาน ก็ยิ่งเสียเปรียบมากขึ้นเรื่อย

ตลาดหุ้นทั่วโลกก็หน้าตาเหมือนกัน

แล้วคนที่ถือสั้นๆ แต่ไม่ออกจากหุ้นนะ กระโดดไปหุ้นอื่นแทนล่ะ

ก็เสียเปรียบอยู่ดีครับ อันนี้พูดจากประสบการณ์ตรงส่วนตัวพบว่า
เสียค่าธรรมเนียมเยอะกว่า
ไม่มีอะไรบอกได้ว่าหุ้นที่กระโดดไปจะทำได้ดีกว่าหุ้นที่อยู่เดิม
ส่วนใหญ่แล้วถ้าเราซื้อหุ้นที่ดีได้มาในราคาถูก ถือไปยาวๆกำไรดีมาก แต่เราดันกระโดดออกกลางทาง

ส่วนใหญ่เป็นข้ออ้าง ลึกๆมาจากความใจร้อนซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในระยะยาว หรือไม่ก็ไม่ได้ทำการบ้านมาดีเท่าไหร่เลยไม่ได้เชื่อมั่นหุ้นที่ถือขนาดนั้น ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้เป็นปัญหา ต้องระวัง

แล้วทำไงดี ? ทางแก้จริงๆก็ไม่ง่ายเพราะอันนี้มันเป็น impulse บางทีมันอารมณ์ด้วย ควบคุมยาก

ผมเสนอว่าเขียน commitment ลงไปครับ คนเราในทางจิตวิทยาถ้าเขียนออกมามันจะหนักแน่นกว่า ผมแนะนำว่าคุณเขียนออกมาเลยว่าตัดสินใจซื้อหุ้นอะไร ซื้อเพราะว่าอะไร ทำไมเราเชื่อว่าดี แล้วเราจะถือนานอย่างน้อยแค่ไหน แล้วเป็นไปได้ก็บอกคนใกล้ตัวไว้เลยด้วย มันจะทำให้เราหลุดยากขึ้นครับ

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

ข้อมูลยิ่งเยอะก็ยิ่งดีไม่ใช่เหรอ ?

Why too much info is bad?

ข้อมูลยิ่งเยอะก็ยิ่งดีไม่ใช่เหรอ ?

ก่อนหน้านี้เคยมีหลายครั้งที่ผมบอกว่าพยายามอย่าฟังข่าวสารข้อมูลอะไรเยอะไป ก็มีคนมีคำถามว่าทำไม การรับข้อมูลยิ่งเยอะยิ่งดีไม่ใช่หรือ มันควรจะเป็นว่าเราควรจะรับข้อมูลให้เยอะที่สุดที่เป็นไปได้แล้วก็พิจารณาข้อมูลพวกนั้นไม่ใช่หรือ

คำตอบคือมันก็ใช่ ถ้าเราเป็น perfectly rational human อ่ะนะ ภายใต้สมมติฐานว่าเราตัดสินใจแบบมีสติตลอด ไม่มีอารมณ์เลย ฉลาดสุดๆ ไม่มี bias ใด การรับข้อมูลจำนวนมากตลอดเวลาก็ไม่มีปัญหาอะไร

แต่เอาเข้าจริงเราก็รู้อยู่แล้วนี่ ว่าตัวเราเองก็ไม่เป็นแบบนั้น การรับข้อมูลอะไรที่มันไม่สำคัญเยอะเกินมันทำให้เราสับสน

งานวิจัยที่ศึกษา human bias มีเยอะแยะ สองอันหลักๆที่ผมอ่านเจอเร็วๆนี้แล้วเกี่ยวข้องกับคำถามนี้ก็จะมี confirmation bias กับ anchoring bias

Confirmation bias คือ bias ประเภทเลือกรับข้อมูลที่ไปทางเดียวกับความเชื่อเดิมเรา ในขณะที่ไม่รับข้อมูลพวกที่ขัดแย้งกับความเชื่อเรา ก็เลยทำให้การมีข้อมูลเยอะๆก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร ซ้ำร้ายคือเอาข้อมูลที่จริงๆไม่เกี่ยวเป็น noise แต่ไปในทางสนับสนุนก็ยิ่งทำให้เรามั่นใจมากขึ้นไปอีก

การทดลองที่ยืนยัน confirmation bias ก็มีเยอะแยะ ยกตัวอย่างอันที่อ่านเจอล่าสุดอยู่ในหนังสือ The Black Swan ของ Nassim Nicholas Taleb เค้าพูดถึงการทดลองอันนึง เอาภาพเบลอของหัวดับเพลิงมาให้คนทาย แบ่งคนเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกแบ่งความเบลอจากเบลอสุดไปชัดมี 10 ระดับ กับอีกกลุ่มมี 5 ระดับ ปรากฎว่ากลุ่มที่มีแค่ 5 ระดับเดาถูกได้เร็วกว่า เค้าพบว่าคนที่อยู่กลุ่มที่มี 10 ระดับเริ่มเดาในหัวก่อน ณ ตอนที่รูปยังเบลอกว่า แล้วหลังจากนั้นความที่เดาไปแล้วทำให้รู้ตัวช้ากว่าเพราะเชื่อสิ่งที่เดาตอนแรก

หรืออีกอันนึงคือเค้ามีทดสอบคนเดาผลการแข่งม้า โดยตอนแรกให้เดาโดยให้ข้อมูลสำคัญ 10 เรื่อง เสร็จปุ๊บก็ให้ข้อมูลเพิ่มอีก 10 เรื่อง ผลคือข้อมูล 10 เรื่องที่เพิ่มทีหลังไม่ได้ทำให้การเดาแม่นขึ้น มันทำให้คนเดามีความมั่นใจมากขึ้นแค่นั้น

ส่วน anchoring bias นี่คือการที่บางทีหัวเรายึดติดกับข้อมูลหรือเลขอะไรซักอย่างที่เราเห็นก่อนหน้า

มันเคยมีการทดลองที่เค้าให้คนหมุนวงล้อสุ่มเลข แล้วให้คนดูตัวเลขที่ได้ซึ่งคนก็รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นอะไรที่ random แล้วหลังจากนั้นก็ให้คนเดาว่าในสหประชาชาติมีประเทศแอฟริกันอยู่กี่ประเทศ ผลคือคนที่สุ่มเลขได้เลขที่น้อยมีแนวโน้มที่จะเดาตัวเลขที่ต่ำ ในขณะที่คนที่สุ่มเลขได้เลขที่สูงก็มีแนวโน้มที่จะเดาเลขที่สูงกว่า

ดังนั้นการที่บางทีใครก็ไม่รู้พูดเลขอะไรซ้กอย่างเช่น SET จะปิด x,xxx จุด หรือหุ้นนี้น่าจะไปถึงราคา xx บาท มันก็จะทำให้เราเกิดการ anchoring กับเรื่องนั้น ฝังหัวเราไปทั้งที่จริงๆเลขพวกนั้นมีเหตุผลหรือเปล่าก็ไม่รู้ เป็นอะไรที่อันตรายมาก

สรุปแล้วคือ การรับข้อมูลเยอะๆ ไม่ได้เป็นประโยชน์เสมอไปเพราะคนเรามี bias การรับข้อมูลจำนวนมากโดยเฉพาะพวกที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือพวกความเห็นคนนู้นคนนี้ ทำให้เราเขวได้ เป็นปัญหามากกว่าดี

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี