มือใหม่มาก ไม่รู้อะไรเลย เริ่มต้นยังไง ?

How to Start Guide for a Stock Newbie

มือใหม่มาก ไม่รู้อะไรเลย เริ่มต้นยังไง ?

จริงๆก็มีคนถามประมาณนี้หลายทีละ  ไม่เคยทำวีดิโอตอบซะที  วันนี้เรามาตอบเรื่องนี้กัน  สมมติว่าเพิ่งเริ่มสนใจในหุ้นเลย  ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น  จะเริ่มยังไงแล้วต้องรู้อะไรบ้าง

  1. เริ่มจากทำความเข้าใจว่าอะไรคืออะไรก่อน  เช่นหุ้นคืออะไร ?  เงินปันผลคืออะไร ?  SET 1,500 จุดไอจุดๆนี่คืออะไร ?  แหล่งข้อมูลทั่วไปหาได้ที่ไหน ?  เริ่มจากความเข้าใจเรื่องทั่วไปพวกนี้ก่อนเลย
  2. ดูแนวทางและวิธีการลงทุนแบบต่างๆ  อย่าเพิ่งไปสนใจว่าทำอย่างไรอย่างละเอียด  โฟกัสไปที่การทำความเข้าใจความเชื่อพื้นฐานของวิธีการลงทุนเหล่านั้น  ทำความเข้าใจเหตุผลว่าทำไมคนที่ทำถึงเชื่อว่าวิธีการนั้นได้ผล
  3. ตัดสินใจเลือกแนวทางที่รู้สึกสมเหตุสมผลสำหรับเรา
  4. ขึ้นอยู่กับว่าเลือกแนวทางไหน  ก็ไปเรียนรู้ทำความเข้าใจเรื่องที่จำเป็นสำหรับการลงทุนแนวนั้น
  5. ศึกษาให้มากพอถึงจุดที่เรารู้สึกว่าเราอธิบายกับตัวเองได้ละว่าจะลงทุนยังไง  เขียนเป็นแผนการคร่าวๆได้
  6. เก็บรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้เวลาลงมือทำจริงเช่นเปิดพอร์ตยังไง  ส่งคำสั่งซื้อขายยังไง
  7. อย่าลืมทำการบันทึกไว้ด้วยว่าเริ่มลงทุนด้วยเงินเท่าไหร่ยังไง  ในภายหลังจะได้สามารถเช็คได้ว่าวิธีที่ใช้อยู่ได้ผลหรือเปล่า
  8. แนะนำว่าให้เวลาซักพักใหญ่ในการวัดผล  อย่าวัดผลระยะเวลาสั้นเกินจนสรุปอะไรไม่ได้
  9. สำหรับคนที่บอกว่าไม่มีเวลาศึกษา  หรือบอกว่าศึกษาแล้วงงไม่รู้ทำไง  อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกตินะ  คุณอาจจะเหมาะกับการให้คนอื่นลงทุนให้  ก็ลงทุนด้วยกองทุนรวมแทนก็ได้ไง

เรียงลำดับทำตามนี้เลยครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

ทำไมราคาหุ้นถึงวิ่ง ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอด ?

Why stock always fluctuates ?

ทำไมราคาหุ้นถึงวิ่ง ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอด ?

อยากให้นึกภาพว่าตลาดหุ้นมันเหมือนเป็นตลาดที่มีคนจำนวนมากมาประมูลซื้อขายหุ้นอยู่  ใครอยากขายอะไรเท่าไหร่ก็ส่งคำสั่งไป  ใครอยากซื้ออะไรที่ราคาเท่าไหร่ยังไงก็ส่งคำสั่งไป  ตลาดระบบมันก็จับที่ราคามันได้ทั้งสองฝ่ายก็ถือว่าเกิดการซื้อขาย

ทีนี้เวลาที่มีคนอยากซื้อเยอะกว่าอยากขาย  ราคามันก็สูงขึ้นเพราะมีคนเสนอซื้อเยอะ  คนที่อยากได้ก็ต้องยอมซื้อที่ราคาสูงขึ้นมันจะได้มีคนอยากขายให้  กลับกันถ้าคนอยากขายมีเยอะกว่าอยากซื้อ  คนขายก็ต้องยอมขายที่มันถูกลงจะได้มีคนยอมซื้อไม่งั้นก็ขายไม่ได้ไม่มีคนซื้อ

ดังนั้นในแต่ละวันมันก็จะมีราคาขึ้นๆลงๆนิดหน่อย  เพราะคนที่อยู่ในตลาดหุ้นมันมีเยอะไปหมด  แล้วเค้าก็อยากซื้อหรือขายไม่พร้อมกัน  ก็เท่านั้นเองครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

หุ้น คืออะไร ?

What is Stock ?

หุ้น คืออะไร ?

มันแบบเดียวกับเวลาเราหุ้นกันกับเพื่อนทำธุรกิจหรือซื้อของมาขายเลยครับ  คือเราเข้าไปเป็นเจ้าของร่วมกันในธุรกิจแล้วก็กำไรแบ่งกัน  ถ้าหุ้นกันแล้วขายของได้ดีเราก็กำไร  ถ้าหุ้นกันแล้วเจ๊งขายของไม่ได้เราก็ขาดทุน  หุ้นมันก็คือเป็นหุ้นส่วนแบบนั้นแหละ

หุ้นในตลาดก็แบบนั้นเลย  ถ้าเราซื้อหุ้น CPALL ก็คือเราเข้าไปเป็นเจ้าของร่วมใน CPALL  ถ้าเราซื้อหุ้น Central Pattana ก็คือเราเข้าไปเป็นเจ้าของร่วมใน Central Pattana  ถ้าในอนาคตบริษัทพวกนี้ทำธุรกิจได้กำไรดี  กำไรบางส่วนก็จ่ายออกมาให้เราอันนี้ก็คือที่เค้าเรียกว่าเงินปันผล  บางส่วนก็เก็บไว้ลงทุนขยายกิจการต่อก็ยิ่งทำให้อนาคตบริษัทกำไรเยอะขึ้นไปอีกและมีเงินมาปันผลให้เราเยอะขึ้นไปอีก  และถ้าเกิดในอนาคตนั้นเราเกิดอยากขายหุ้นขึ้นมาก็มีแนวโน้มที่จะมีคนอื่นยินดีซื้อจากเราในราคาที่สูงขึ้นเพราะเค้าก็เห็นว่าบริษัททำได้ดีขึ้นมีค่ามากขึ้น  แต่ถ้ากลับกันบริษัทพวกนี้เจ๊ง  ก็ไม่มีกำไรจ่ายปันผลให้เรา  และถ้าในตอนนั้นเราเกิดอยากขายหุ้นขึ้นมา  ก็มีแนวโน้มที่จะขายได้ในราคาที่ต่ำลงเพราะคนอื่นก็เห็นว่าบริษัททำได้แย่ก็ไม่มีใครอยากได้

และดังนั้นผมก็เลยอยากจะฝากและย้ำกับคนใหม่ว่าเมื่อคุณเข้าใจแบบนี้แล้วว่าหุ้นคือการเป็นเจ้าของร่วมในธุรกิจ  สิ่งที่คุณควรทำเวลาซื้อหุ้นก็คือพิจารณาตัวธุรกิจเป็นหลัก  ถามดูว่ามันเป็นธุรกิจที่คุณอยากจะเป็นเจ้าของจริงๆหรือเปล่า  อย่าไปสับสนประเด็นมัวแต่มองกราฟราคาหรือพยายามเล่นเกมนั่งเดาทิศทางตลาด  พวกนั้นมันเรื่องปลีกย่อย  สาระสำคัญคือคุณกำลังจะเป็นเจ้าของร่วมในธุรกิจ  ถ้าธุรกิจทำได้ดีเงินลงทุนคุณก็จะดีด้วย  ถ้าธุรกิจทำได้แย่เงินลงทุนคุณก็จะแย่ไปด้วย  หลักๆมันเท่านั้นเองครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

จะเริ่มลงทุนในหุ้น ควรลงทุนด้วยตัวเอง หรือผ่านกองทุนรวมดี ?

Mutual fund or Decide on your own ?


จะเริ่มลงทุนในหุ้น ควรลงทุนด้วยตัวเอง หรือผ่านกองทุนรวมดี ?

อันนี้คือเราพูดถึงกองทุนหุ้นและไม่พูดถึงสิทธิในการลดหย่อนภาษีนะ ผมว่าระหว่างสองทางเลือกนี้มันก็มีข้อดีข้อเสียแล้วแต่ความชอบและสถานการณ์แต่ละคน จะให้บอกว่าอันไหนดีกว่าอย่างชัดเจนคงยาก ผมแจกแจงประเด็นความได้เปรียบของแต่ละทางเลือกให้ฟังคร่าวๆก่อนละกัน

กองทุนได้เปรียบเรื่อง

  1. การกระจายความเสี่ยงได้ง่ายด้วยเงินที่น้อย
  2. หนึ่งกองทุนมันซื้อหุ้นหลากหลาย ปกติเค้าจะมีกำหนดไม่ให้ถือหุ้นใดหุ้นหนึ่งมากเกินหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกิน ดังนั้นมันเป็นการกระจายความเสี่ยงโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว สมมติเราเลือกหุ้นเองเราก็กระจายความเสี่ยงเองได้แหละโดยการไปเลือกซื้อหุ้นหลายตัว แต่มันก็วุ่นวายกว่าและเพื่อให้ได้การกระจายเท่าๆกองทุนก็ต้องใช้เงินเยอะกว่าเพราะปกติซื้อหุ้นมันซื้อเป็น lot ละ 100 หุ้น

  3. สบายสุดๆ
  4. ซื้อกองทุนคือการให้คนอื่นบริหารเงินลงทุนให้เรา ดังนั้นมันมาพร้อมความสะดวกสบายสุดๆแบบที่เราไม่ต้องดูเลย ในขณะที่เลือกหุ้นด้วยตัวเองต่อให้ทำแบบ DCA เลย ยังไงมันก็ต้องมีการตัดสินใจว่าจะ DCA หุ้นอะไรและยังไงก็ต้องคอยตามผลประกอบการบริษัทที่เราเลือกนั้น

 

ลงทุนในหุ้นเองได้เปรียบเรื่อง

  1. ตัดสินใจเองได้
  2. ตัดสินใจเองได้ก็มีความยืดหยุ่นมากกว่า บางคนอาจจะต้องการซื้อหุ้นเพื่อให้ได้ปันผลสูงระดับหนึ่งและสม่ำเสมอ ถ้าซื้อกองทุนมันก็อาจจะกระจายเกินไปและเลือกไม่ได้ว่าจะ dividend yield กี่ %

  3. คาดหวังผลตอบแทนได้ต่างจากค่าเฉลี่ย
  4. ถ้าเราต้องการผลตอบแทนดีกว่าค่าเฉลี่ยก็คงต้องลงทุนเองแหละ คือซื้อกองทุนรวมก็อาจจะดีกว่าค่าเฉลี่ยได้นะ แต่นั่นมันคือเราแค่โชคดีเฉยๆเพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่ากองทุนไหนจะทำได้ดี ถ้าจะเอาแบบดีกว่าค่าเฉลี่ยแบบไม่ฟลุคก็คือต้องทำเอง

    แต่ผมย้ำนิดนึง ลงทุนเองนี่เราคาดหวังผลตอบแทนที่แตกต่างจากค่าเฉลี่ย สังเกตตรงคำว่าต่างนะ ต่างคืออาจจะดีกว่าค่าเฉลี่ยหรือแย่กว่าก็ได้ มันขึ้นอยู่กับฝีมือเรา อย่าไปเข้าใจว่าลงทุนเองแล้วจะดีกว่าค่าเฉลี่ย

  5. ไม่โดนค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการ
  6. กองทุนมีค่าใช้จ่าย อย่างต่ำๆที่ผมเคยเห็นเป็นกองทุนดัชนี SET50 ค่าธรรมเนียมประมาณ 0.6% ต่อปี ลองนึกดูสมมติปีนึงกองทุนทำผลตอบแทนได้ 5% ค่าธรรมเนียมนี่ก็กินเข้าไปในผลตอบแทนที่ทำได้เกิน 10% ละนะ (0.6%/5% = 12%)

    คิดง่ายๆถ้าสมมติเราฝีมือทำได้เท่ากองทุนรวมเลย ผลลัพธ์สุดท้ายเราจะออกมาดีกว่าเพราะลงทุนเองไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

 

ช่วยตัดสินใจ

ฟังถึงตรงนี้ บางคนก็จะยังมีความลังเลอยู่ดีว่าเอาไงดีวะ ดังนั้นผมช่วยตัดสินใจโดยการแยกประเด็นสำคัญที่เราต้องพิจารณาตัวเองออกมาทำให้ตัดตัวเลือกออกง่ายขึ้นครับ

  1. คาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยหรือมีโจทย์ในการซื้ออะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า ?
  2. ถ้าคาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ย อันนี้แปลว่าคงต้องเลือกลงทุนด้วยตัวเองละ จะด้วยวิธีการแบบไหน DCA หรือไม่ก็แล้วแต่

    หรือถ้ามีโจทย์การซื้อหุ้นอะไรที่เจาะจง ชอบบริษัทอะไรเป็นพิเศษ พวกนี้ก็ต้องลงทุนด้วยตัวเองละ จะด้วย DCA หรือเลือกซื้อด้วยวิธีอะไรก็แล้วแต่

  3. มีเวลาศึกษาหรือไม่มี ?
  4. ถ้ามั่นใจว่าไม่มีเวลามาศึกษาอ่านรายละเอียดบริษัท, ทำการประมาณการผลตอบแทน, ติดตามสถาวะอุตสาหกรรมการแข่งขัน, ฯลฯ อย่างนั้นแปลว่าทางเลือกตัดออกเหลือแค่เลือกหุ้นด้วยตัวเองแต่ลงทุนแบบซื้อเฉลี่ยด้วยเงินเท่ากันสม่ำเสมอไปเลย (DCA)

หวังว่าจะตัดสินใจง่ายขึ้นครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ

https://www.adisonc.com/courses

ทำไมเราถึงอยากให้คุณลงทุนระยะยาว

Why Should You Invest Long Term

ทำไมเราถึงอยากให้คุณลงทุนระยะยาว

วีดิโอหัวข้อสำหรับคนที่ลงทุนระยะยาวอยู่แล้วก็ดีแล้ว  แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ลงทุนระยะยาวผมจะมาพยายามโน้มน้าวให้คุณมาลงทุนระยะยาวครับ

เหตุผลที่ทำให้การลงทุนระยะยาวได้เปรียบการลงทุนระยะสั้นคือ

  1. ผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวไม่ได้แพ้การลงทุนระยะสั้น
  2. บางคนมีความเข้าใจผิดว่าลงทุนระยะยาวผลตอบแทนสู้การลงทุนระยะสั้นไม่ได้ซึ่งมันไม่จริง  บางทีเราเคยได้ยินว่ามีคนลงทุนระยะสั้นซื้อวันเดียวได้กำไร 20% ซึ่งมันก็อาจจะจริง แต่มันก็จะมีวันที่เค้าพลาดแล้วขาดทุนวันเดียว 20% เช่นกัน  สุดท้ายมันต้องวัดกันยาวๆว่าผ่านไป 10 ปีเงินต้นเราโตเป็นเท่าไหร่ กำไรบ้างขาดทุนบ้างไปมาก็อาจจะธรรมดาก็ได้ คนลงทุนระยะสั้นทำได้เทพมากก็มีห่วยแตกมากก็มี  คนลงทุนระยะยาวเทพมากก็มีและห่วยแตกมากก็มีเช่นกัน

  3. พลาดโอกาสเพราะโดยรวมแล้วตลาดหุ้นมันเป็นทิศทางขาขึ้น
  4. โดยภาพรวมอยากจะให้เข้าใจว่าภาพรวมของตลาดหุ้นก็คือหุ้นบริษัทจำนวนมากจากอุตสาหกรรมที่หลากหลายในประเทศไทยรวมกัน  และที่ผ่านมาภาพระยะยาวเศรษฐกิจของประเทศไทยก็เป็นทิศทางขาขึ้น ดังนั้นตลาดหุ้นโดยรวมก็เลยมีทิศทางเป็นขาขึ้นถึงแม้ว่ามันจะดูแกว่งรุนแรงเพราะมันขึ้นอยู่กับอารมณ์ของคนในตลาดซะเยอะก็ตาม  

    ดังนั้นหมายความว่าโดยเฉลี่ยถ้าเงินเราอยู่ในหุ้นเราจะกำไร  ลงทุนระยะยาวเลยได้เปรียบลงทุนระยะสั้นเพราะมีช่วงเวลาที่เงินอยู่ในหุ้นมากกว่า

  5. ลดผลกระทบของจิตวิทยาตลาด
  6. เวลาเราลงทุนระยะยาวเราจะให้ความสนใจกับผลประกอบการของบริษัทซึ่งอย่างมากก็ออกรายงานไตรมาสละครั้ง  เราจะไม่มาจับตามองหุ้นเราทุกวัน ซึ่งมีผลดีต่อสภาวะจิตเรา ราคาหุ้นในแต่ละวันมันก็ขึ้นๆลงๆน่ะแหละไม่เกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัท  นั่งดูไปก็ตื่นเต้นตระหนกตกใจเปล่าๆ หนักกว่านั้นคือเดี๋ยวเราเผลอไปซื้อหรือขายตามอารมณ์ตลาดอีกต่างหาก

  7. ไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินกับค่าคอมมิชชั่นซื้อขาย
  8. แล้วเวลาซื้อขายบ่อยๆนี่มันก็มีต้นทุนนะ  อย่างเวลาซื้อขายของ SCBS ของผมมันจะมีค่าธรรม 0.15% ของมูลค่าการซื้อขาย  ซึ่งถ้าดูแบบนี้มันเหมือนจะน้อย แต่สมมติเราลงทุนซื้อขายปีละหลายครั้งรวมกันมันก็จะเยอะอยู่  คำนวณง่ายๆถ้าซื้อและขาย 1 ครั้งก็จะเท่ากับ 0.3% ถ้าซื้อและขายเดือนละครั้งก็เป็น 3.6% แล้ว เยอะนะครับนั่นน่ะ  นึกภาพว่าเราเสียค่าธรรมเนียมตรงนี้ไปฟรีๆ ดังนั้นการลงทุนระยะยาวที่ซื้อขายนานๆทีก็เลยได้เปรียบลงทุนระยะสั้นแล้วซื้อขายบ่อยๆ

  9. ไม่ต้องมานั่งเฝ้า
  10. อันนี้สำคัญที่สุดเลย  การลงทุนระยะยาวทำให้คุณไม่ต้องมาคอยดูราคาขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา  ถ้าคุณลงทุนเพราะชอบความตื่นเต้นและสนุกกับมันก็แล้วไป แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้นการลงทุนระยะยาวทำให้คุณมีเวลาเอาไปทำเรื่องอย่างอื่นที่สำคัญกับชีวิตแทนที่จะมานั่งดูจอตัวเลขขึ้นลงทั้งวัน

 

และด้วยเหตุผลเหล่านี้  ลงทุนระยะยาวเถอะครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg