อัพเดทสถานการณ์ตลาดหุ้น และกลยุทธ์ลงทุน – มิถุนายน 2021

June 2021 market update

อัพเดทสถานการณ์ตลาดหุ้น และกลยุทธ์ลงทุน – มิถุนายน 2021

วีดิโอนี้เราแสดงความคิดเห็นตอบคำถามที่คนถามเข้ามาเกี่ยวกับภาพรวมทิศทางตลาดหุ้นครับ  โดยเราคุยไปทีละเรื่อง

ตลาดหุ้นไทยและโควิดที่ระบาดในไทย

คือผมว่ามาถึงตรงนี้เราต้องยอมรับละว่ายังไงการระบาดคงไม่ซาหายไปเองแบบที่ผ่านมาแน่  กว่าจะควบคุมการระบาดได้ก็คงต้องแบบประเทศอื่นคือต้องฉีดวัคซีนให้ได้จำนวนมากระดับหนึ่งเท่านั้น  เท่าที่ดูตัวอย่างจากอเมริกา, อังกฤษกับยุโรป  สมมติเราตั้งใจฉีดกันให้ได้เยอะๆแล้วไม่ติดเรื่องไม่มีวัคซีนเราก็น่าจะฉีดได้เยอะระดับนึงภายในสิ้นปีนี้  และแปลว่าการระบาดน่าจะควบคุมได้อย่างช้าต้นปีหน้า

ในมุมตลาดหุ้น  ดัชนีตอนนี้ก็ยังแถว 1,600 อยู่  ดูไม่ได้มีอะไรตกเยอะแยะหรือมีความตกใจในวงกว้างจากโควิดที่ระบาด  ส่วนตัวผมก็มุมมองเหมือนเดิมคือโอกาสยังหาได้อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่โดนโควิดจังๆแล้วราคาตกเยอะๆ  อย่างพวกโรงแรมกับห้าง  หน้าที่ของเราคือเลือกบริษัทที่มันน่าจะมีเงินทุนมากพอที่จะรอดและน่าจะกลับมาทำได้ดีเมื่อโควิดจบ

ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ

มีคนถามว่าถ้าเงินเฟ้อในอเมริกาสูงขึ้นมากๆ  จะทำให้ fed ลดอัตราดอกเบี้ยและหุ้นจะตกมั้ย

อันนี้ให้ดู Consumer Price index ในอเมริกา  จะเห็นว่าระดับราคาดูสูงขึ้นแหละ  แต่ยังไม่ถึงกับสูงเว่อร์เนื่องจากระดับราคามันตกลงไปตอนช่วงปี 2020

ในประเด็นเรื่องเงินเฟ้อ  ในความเห็นส่วนตัวคือผมมองว่าเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมาจากการที่ Aggregate supply ปรับตัวไม่ทันการกลับมาของ Aggregate demand  คือถ้าเราตามข่าวเราจะเห็นว่ามีการขาดแคลนคนงานในธุรกิจต่างๆในอเมริกา  แต่เราก็เห็นว่าอัตราการจ้างงานยังไม่ฟื้นกลับไปสภาพก่อนโควิด  น่าจะเป็นสัญญาณของการปรับตัวไม่ทันของฝั่ง supply  ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงมันก็ไม่ควรเป็นปัญหาและเงินเฟ้อก็ไม่ควรจะเลยเถิด

แต่ทีนี้คำถามต่อมาคือ fed จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นหรือเปล่า  และถ้าสมมติใช่แปลว่าตลาดหุ้นจะต้องตกหรือเปล่า  ประเด็นแรกเรื่องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นนี่ผมก็เชื่อว่าเค้าจะทำเมื่อเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกตินะ  ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคือเมื่อไหร่แต่ก็ไม่น่าจะทันทีในเดือนสองเดือนนี้เพราะภาคธุรกิจบางอันอย่างการท่องเที่ยวก็ยังไม่ฟื้น  แต่สมมติธุรกิจฟื้นเร็วกว่าคาด  ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า fed จะเริ่มปรับอัตราดอกเบี้ย  แต่นั่นแปลว่าตลาดหุ้นน่าจะต้องตกหรือเปล่า  ก็เป็นไปได้แต่ถ้าหุ้นจะตกผมก็ว่ามันน่าจะตกในธุรกิจกลุ่มที่ขึ้นไปเยอะมากก่อนหน้านี้มากกว่า  ส่วนหุ้นกลุ่มธุรกิจที่ยังไม่ฟื้นอย่างท่องเที่ยวก็ไม่น่าจะตกอะไรได้เยอะแยะในเมื่อตัวบริษัทกำลังทำได้ดีขึ้นทั้งกลุ่ม

ตลาดหุ้นอื่นๆนอกจากไทย

ก็ไม่ได้มีมุมมองอะไรเป็นพิเศษ  แต่ที่แน่ๆคือพวกประเทศที่เริ่มฉีดวัคซีนไปได้เยอะก็น่าจะทำได้ดี  หุ้นกลุ่มที่ช่วงก่อนโดนโควิดซะเละก็น่าจะเริ่มฟื้นในประเทศพวกน้ัน

ถ้าเราตามข่าวเราจะเห็นว่า US ก็เปิดให้คนในประเทศเดินทางไปมาได้แล้ว  ไม่ต้องใส่หน้ากากแล้วด้วย  และเปิดให้คนนอกประเทศเข้ามาได้ยกเว้น 35 ประเทศที่อยู่ใน list ระบาดเยอะ  ส่วนยุโรปเองตัวเลขการจองตั๋วเครื่องบินเดินทางพวกนี้ก็สูงขึ้นเแล้วด้วย  สายการบินเริ่มเพิ่มเที่ยวบิน

แน่นอนความเสี่ยงเรื่องโควิดสายพันธุ์ใหม่ก็ยังมีอยู่นะ  อาจจะโผล่พรวดมาก็ได้  แต่เท่าที่เราเห็นในเวลานี้ก็สถานการณ์ดีกว่าต้นปีชัดเจน

ลงทุนไงต่อดี

ถ้าเป็นผมก็เหมือนเดิม  คือจะซื้อบริษัทที่โดนโควิดจังๆแล้วน่าจะรอด  พวกที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว, การเดินทาง, โรงเรียน, โรงแรม, ห้าง, ฯลฯ  แล้วแต่ว่าหาอะไรเข้าท่าที่ราคายังไม่ฟื้นได้  โดยโฟกัสไปที่ประเทศที่กำลังจะฟื้นก่อนอย่าง US, UK, ยุโรป  ลงทุนไว้อย่างน้อยจนกว่าธุรกิจจะฟื้นจากโควิด

หลังจากนั้นพอธุรกิจในประเทศพวกนั้นฟื้นแล้ว  แนวโน้มคือราคาหุ้นก็จะฟื้นด้วย  พอเป็นแบบนั้นผมก็จะพิจารณาขายและย้ายเงินลงทุนมายังประเทศที่ยังไม่ฟื้นต่อแต่กำลังเริ่มฉีดวัคซีนแล้ว  อย่างเช่นไทย, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, ฯลฯ  โดยมองหาหุ้นธุรกิจคล้ายๆกันแล้วก็ทำแบบเดิม

สรุปคือถ้าเป็นผม  ผมจะฉวยโอกาสจากโควิดให้เต็มที่  และฉวยโอกาสจากการที่มันฟื้นไม่พร้อมกันให้เป็นประโยชน์ให้ได้มากที่สุดน่ะครับ

ตลาดหุ้นฟื้นกันขึ้นมาแล้ว  ยังหาโอกาสได้อยู่เหรอ

ได้ชัวร์  เพราะผมยังเห็นอยู่  ที่บ่นหาไม่ได้นี่ไม่ใช่ปัญหาของตลาดละ  ปัญหามันอยู่ที่คุณนี่แหละไม่พยายามหาเอง  เอาตรงๆผมว่าช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดีมากนะ  อาจไม่ดีเท่าต้นปีที่แล้วตอนตลาดตกหนักๆเพราะเราจะซื้อได้ถูกมาก  แต่ก็ถือว่าดีมากแล้วเพราะสถานการณ์ชัดเจนขึ้นเยอะความเสี่ยงน้อยลงเยอะ  ถ้าใครจะขี้เกียจตอนนี้ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

Buffett indicator กำลังบอกว่าตอนนี้ตลาดหุ้นแพงมากแล้ว !!

Buffett indicator

Buffett indicator กำลังบอกว่าตอนนี้ตลาดหุ้นแพงมากแล้ว !!

ผมเคยอ่านเจออยู่ทีนึงเมื่อนานมาแล้ว  Warren Buffett เคยพูดถึงอัตราส่วนอันนึงที่เป็นตัววัดที่ดีว่าตอนนี้ตลาดหุ้นแพงไปแล้วหรือยัง  แล้วก็บอกตามตรงคือลืมไปแล้ว  จนเมื่อเร็วๆนี้ไปอ่านเจอคนพูดถึงว่าตัวอัตราส่วนนี้กำลังส่งสัญญาณว่าหุ้น ณ ปัจจุบันแพงไปเยอะมาก  ผมเลยกลับไปดูว่ามันคืออะไรแล้วเลยมาพูดถึงให้ฟังครับ

อัตราส่วนนี้ปัจจุบันคนนิยมเรียกว่า Buffett Indicator เพราะมันดังจาก Warren Buffett เป็นคนพูดถึง  อัตราส่วนนี้เปรียบเทียบระหว่างมูลค่าทั้งหมดของหุ้นทั้งตลาดใน US เทียบกับ GDP ของทั้งประเทศ  ถ้าราคาของหุ้นสูงเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมของทั้งประเทศก็แปลว่าราคามันน่าจะแพงเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน

ปัจจุบันอัตราส่วนนี้อยู่ที่ 234%  ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับที่ผ่านมาในอดีต  สูงว่าตอนช่วง Dotcom bubble ด้วย  มันก็เลยมีคนเริ่มทักขึ้นมาว่าตอนนี้ตลาดหุ้นร้อนแรงเกินไปแล้วหรือเปล่า  มันจะมี crash เกิดขึ้นในเร็วๆนี้มั้ย  ผมทิ้งลิ้งค์ของเวปที่คำนวณอัตราส่วนนี้ไว้ให้ครับ

https://www.currentmarketvaluation.com/models/buffett-indicator.php

ส่วนตัวผมก็มองว่าเหตุผลที่ทำให้ตลาดหุ้นราคาสูงขึ้นไปเยอะขนาดนี้ (โดยเฉพาะช่วงนี้) น่าจะเพราะนโยบายการเงินที่กระตุ้นเศรษฐกิจโดยการลดอัตราดอกเบี้ยและเพิ่มเงินในระบบเศรษฐกิจหรือเปล่า  มันก็เลยผลักให้เงินจำนวนมากวิ่งหาผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากเช่นหุ้น  ก็เลยทำให้ราคาหุ้นโดยรวมสูงขึ้นเยอะ  ถ้าเป็นเพราะสาเหตุนี้จริงงั้นความกังวลว่าจะ crash ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้นะ  เพราะ fed ก็ยังพูดชัดเจนว่าจะยังต้องกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปอีกซักพัก  บวกกับวัคซีนเริ่มได้ผลใน US และเราเริ่มเห็นยอดขายสินค้าปลีกสูงขึ้นการจ้างงานสูงขึ้น  ดังนั้นผมก็คิดว่าด้วยปัจจัยบวกเหล่านี้ตลาดหุ้นโดยรวมก็ไม่น่าจะ crash เร็วๆนี้นะ

https://www.wsj.com/articles/us-economy-march-retail-sales-coronavirus-recovery-11618450223

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ไม่รู้อนาคตและสิ่งที่ผมเชื่อก็ไม่ใช่ว่าจะถูก  ดังนั้นตัว Buffett indicator ดูไว้ก็ไม่ได้เสียหายครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

อัพเดทสถานการณ์ ลงทุนยังไงต่อดี ? – 28 ก.ย. 2563

Strategy update - Sep 28, 2020

อัพเดทสถานการณ์ ลงทุนยังไงต่อดี ? – 28 ก.ย. 2563

โดยรวมก็คล้ายๆเดิม  สิ่งที่ต่างไปแล้วดูมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้หุ้นตกลงมาก็เป็นเรื่องความเสี่ยงของ national lockdown ในยุโรป

ช่วงก่อนเราก็เห็นอยู่แล้วว่าการระบาดใน US ยังสูงขึ้น  และเราก็เห็นว่าในยุโรปเริ่มกลับมาระบาด  บางประเทศมีการปิดธุรกิจเช่นอินเดีย, Melbourne, ฯลฯ  แต่ตอนนั้นคนก็ไม่ได้ตกใจอะไร  อาจจะเห็นมีหุ้นกลุ่ม Tech ที่ตกลงมาอยู่  แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้ขึ้นไปเยอะมาก  ที่ลงมาก็ไม่ได้เป็นสาระอะไรเท่าไหร่

มาตอนนี้ดูเหมือนการระบาดจะรุนแรงขึ้นเยอะ  ในสเปนกับฝรั่งเศสนี่คนติดเชื้อใหม่วันละเป็นหมื่นจนเค้าเริ่มมีสั่งจำกัดการทำธุรกิจหรือรวมตัวของคน  ซึ่งรอบนี้เป็นในเมืองใหญ่อย่าง Madrid, Paris, Marseille  ในอังกฤษเองรัฐบาลก็เริ่มส่งสัญญาณว่าอาจจะมี national lockdown นะ  แต่ตอนนี้แค่มีมาตรการเข้มงวดมากขึ้นก่อน  ทำให้หุ้นกลุ่มอื่นเริ่มตก  ไม่ใช่แค่หลักๆหุ้น Tech อย่างเดียว  เข้าใจว่ามาจากการที่ตอนแรกตลาดไม่ได้คิดว่าจะมีการปิดธุรกิจในวงกว้าง  แต่ตอนนี้ดูมีความเสี่ยงว่าจะเกิดขึ้น  แล้วเราก็รู้อยู่แล้วว่าผลกระทบมันเยอะ

โดยภาพรวมแล้วผมมองเหมือนเดิมว่าโรคระบาดเป็นปัญหาชั่วคราว  อนาคตต่อจากนี้ในระยะสั้นก็เป็นไปได้ว่าราคาหุ้นจะตกลงไปอีกถ้ามีปิดเมืองมากขึ้นจนคนกลัวว่าจะกระทบเศรษฐกิจ  ก็เป็นโอกาสอันดีเผื่อใครจะหาซื้ออะไรเพิ่ม  เนื่องจากเวลาเราเลือกซื้อหุ้นเราก็ไม่ได้หวังว่าธุรกิจจะฟื้นตอนปลายปีนี้อยู่แต่แรกแล้ว  เราก็รู้ว่ามันต้องมีวัคซีนมันถึงเริ่มกลับมาปกติ  ดังนั้นเราก็เลือกที่เราคิดว่ามันทนพิษบาดแผลได้ไปถึงอย่างน้อยกลางปีหน้าอยู่แล้ว  สถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายหรืออะไร  ถ้าหุ้นตกลงมาก็ยอดเยี่ยม  ไม่ตกลงมาก็ไม่เป็นไร

หุ้นกลุ่มที่ดูน่าสนใจสำหรับผมก็ยังเหมือนเดิม  คือพวกที่มันได้รับผลกระทบทั้งหลาย  เราแค่ต้องระวังว่ามันรอดเท่านั้นเอง  ตัวอย่างเช่น

  • โรงแรม
  • สนามบิน
  • ที่มันเกี่ยวกับเครื่องบิน
  • รถเมล์, รถใต้ดินและการเดินทางสาธารณะต่างๆ
  • ห้าง
  • ธนาคาร, ปล่อยสินเชื่อ
  • ร้านอาหาร
  • คอนโดที่อยู่อาศัย
  • ตึกออฟฟิศ
  • ประกัน

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

หุ้นบุริมสิทธิ คืออะไร ?

What is Preferred Stocks?

หุ้นบุริมสิทธิ คืออะไร ?

นานๆทีเราก็จะเห็นบนงบการเงินของบางบริษัทว่านอกจากหุ้นสามัญแล้วจะมีหุ้นบุริมสิทธิอยู่ด้วย

วีดิโอนี้เราอธิบายเรื่องหุ้นบุริมสิทธิอย่างรวดเร็วครับ  แต่ต่อจากนี้เราจะเรียกมันว่า Preferred stock นะ

Preferred stock ก็เป็นตราสารที่บริษัทออกเพื่อระดมทุนเหมือนกันกับหุ้นกู้หรือหุ้นสามัญนี่แหละ  แต่มันจะมีลักษณะแตกต่างออกไป  โดยปกติแล้วเค้าจะบอกว่าหุ้นบุริมสิทธิเป็นอะไรที่อยู่ระหว่างหุ้นกู้กับหุ้นสามัญ

  1. ผลตอบแทน Preferred stock โดยปกติจะคงที่
  2. นั่นคือส่วนใหญ่มันจะกำหนดชัดเจนว่าปันผลเท่าไหร่แล้วก็จะเท่านั้นไปตลอดทุกปี  ลักษณะเหมือนหุ้นกู้  

  3. ไม่มีกำหนดอายุ
  4. เหมือนหุ้นสามัญเลย  คือไม่มีกำหนดไถ่ถอนเหมือนหุ้นกู้

  5. ผลตอบแทนที่บริษัทจ่ายออกมา  priority หลังหุ้นกู้แต่ก่อนหุ้นสามัญ
  6. หมายความว่าบริษัทต้องจ่ายหุ้นกู้ก่อนถึงจ่าย Preferred stock ได้  แล้วต้องจ่าย Preferred stock ก่อนถึงจะจ่ายให้หุ้นสามัญได้

    อันนี้รวมถึงสิทธิในการได้รับเงินกรณีที่บริษัทเลิกกิจการและขายทรัพย์สินด้วย

  7. บริษัทมีสิทธิที่ไม่จ่ายปันผล
  8. ตรงนี้ก็เหมือนหุ้นสามัญ  ถ้าเค้าไม่จ่ายเราก็ทำอะไรไม่ได้  ไม่เหมือนหุ้นกู้ที่ต้องจ่าย

  9. ในกรณีที่ไม่จ่ายปันผล  Preferred stock บางทีมี cumulative feature
  10. นั่นคือมีสิทธิยกเอาปันผลที่ไม่ได้รับไปรวมกับปีต่อไป  ปกติมันจะมีกำหนดว่ายกไปได้กี่ปีนะไม่ใช่แบบ infinity

  11. ไม่มี voting rights
  12. Preferred stock ตรงนี้เหมือนหุ้นกู้ตรงที่ไม่มีสิทธิในการออกเสียงในประชุมผู้ถือหุ้น

  13. Special feature อื่นๆที่หายากกว่าแต่อาจจะมี
    • Convertible บางทีอาจจะมีสิทธิในการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ด้วย  แต่ทั่วไปไม่มี
    • Callable คือสิทธิที่บริษัทจะไถ่ถอนได้ตามกติกาและราคาที่กำหนด  แต่ทั่วไปไม่มี
    • Participation rights คือบางทีผลตอบแทนก็ไม่คงที่เสมอไป  ตัวอย่างเช่น Preferred share ของ Jungheinrich จ่ายปันผลปรับตาม Common share โดย Preferred share จะได้ปันผลมากกว่าอยู่นิดหน่อยเสมอ

ทีนี้แล้วเราควรจะสนใจลงทุนใน Preferred stock หรือเปล่า  อันนี้ในความเห็นส่วนตัวผมว่าไม่ต้องสนก็ได้  เพราะผมก็แทบจะไม่เคยเห็น  เข้าใจว่าตลาดของ Preferred stock เล็กกว่าหุ้นกู้หรือหุ้นสามัญมากและสภาพคล่องต่ำดังนั้นจะถือโดยนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก  และตอนนี้ถ้าถามผมว่าไปซื้อได้ที่ไหนยังไงนี่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์แล้วด้วยนะ
https://www.adisonc.com/

หรือ ทดลองเรียนฟรี

Digitalization ส่งผลยังไงกับหุ้นบ้าง ??

How does Digitalization affect stocks ??

Digitalization ส่งผลยังไงกับหุ้นบ้าง ??

ผมเข้าใจว่าคนถามเค้าตั้งใจถามว่าบริษัทที่มีการลงทุนทำโปรเจค Digitalization เช่นเอา Chatbot มาตอบลูกค้า, ฯลฯ  ทำให้ผลทำให้บริษัทดีขึ้นมั้ย มีผลต่อราคาหุ้นหรือเปล่า ซึ่งเป็นคำถามที่ยากมากผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนแรกว่าจะไม่ตอบละแต่ปรากฎว่าพอลองหาๆดูปรากฎว่ามีคนทำวิจัยหัวข้อประมาณนี้อยู่ครับ  ผมเลยเอาผลของงานวิจัยอันนึงที่ผมอ่านเจอมาเล่าให้ฟังคร่าวๆครับ

อันนี้เป็น working paper ของ Wilbur Chen กับ Suraj Srinivasan จาก Harvard Business School

เค้าทำการศึกษากลุ่มบริษัทที่ไม่ใช่สายเทคโนโลยี ที่กำลังมีโปรเจค digital เทียบกับบริษัทกลุ่มที่ไม่ได้มีโปรเจคแล้วมาดูว่ามีผลกระทบอะไรกับบริษัทหรือมีอะไรแตกต่างออกไปบ้าง  

วิธีการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างคือเอาบริษัทมหาชนทั้งหมดช่วงปี 2010-2017 ในอเมริกามา  แล้วมาคัดพวกที่เป็นกลุ่ม IT หรือเทคโนโลยีออกไปโดยดูจากหมวดอุตสาหกรรม หลังจากนั้นก็มาหาคำที่เกี่ยวกับโปรเจค digital บนรายงานประจำปี 10-K และพวก presentation ตอนรายงานผลรายไตรมาส  บริษัทที่ใช้คำศัพท์กลุ่มพวก Analytics, AI, Big Data, Cloud, Machine Learning มากขึ้นเค้าก็นับว่าเป็นพวกทำโปรเจค ซึ่งเค้าพบว่ามีบริษัทที่พูดถึงโปรเจค digital เยอะขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก  จากตอนปี 2010 มีบริษัทแค่ 4% ที่พูดถึง แต่ตอนปี 2017 มีบริษัทถึง 22% ที่พูดถึง

สิ่งที่เค้าพบคือบริษัทที่ทำโปรเจค digital

  1. โดยรวมเป็นบริษัทที่ใหญ่กว่า, อายุน้อยกว่า, มีการทำ R&D เยอะกว่า และมีการลงทุน CapEx น้อยกว่า  เมื่อเทียบกับบริษัทกลุ่มที่ไม่ได้ทำ แล้วเค้าก็เจอว่าบริษัทที่ผลประกอบการไม่ดีมีแนวโน้มจะทำโปรเจคพวกนี้มากกว่าบริษัทที่ผลประกอบการดี  เข้าใจว่าเป็นเพราะสถานการณ์บังคับมีผลให้ทำ
  2. ROA ลดลงเล็กน้อย  แม้ว่าจะผ่านไป 3 ปี
  3. Net Margin และ Sales Growth ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  เดาว่าอาจจะเป็นเพราะโปรเจคพวกนี้ใช้เงินลงทุนทำให้ผลการดำเนินงานลดลงในช่วงแรกแต่อาจจะดีขึ้นในระยะยาว  หรืออาจเป็นเพราะคู่แข่งก็เริ่มทำโปรเจคคล้ายๆกันดังนั้นประโยชน์ที่ได้จากโปรเจคพวกนี้เลยหายไป หรืออาจจะเป็นเพราะการทำโปรเจคพวกนี้ต้องใช้ผู้บริหารที่รู้เรื่องเทคโนโลยีถึงจะทำได้สำเร็จเพราะเค้าพบว่าบริษัทที่ทำโปรเจค digital โดยที่มีผู้บริหารที่ถนัดเทคโนโลยีจะมี ROA สูงกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันประมาณ 60% ได้
  4. Asset Turnover ดีขึ้น
  5. อัตราส่วน Price/Book ที่สูงมากขึ้นเมื่อเทียบกับหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันหลังจากที่มีการทำโปรเจคไป  คาดว่าเป็นเพราะนักลงทุนมองว่าโปรเจคประเภทนี้เป็นเรื่องดี
  6. การเพิ่มขึ้นของ Price/Book ทยอยเกิด  ไม่ใช่ขึ้นพรวดเดียวตอนที่บริษัทประกาศว่าจะทำโปรเจค  หมายความว่าถ้าเราซื้อหุ้นบริษัทที่ประกาศว่าจะทำโปรเจคทันทีตอนที่ประกาศ  โดยเฉลี่ยแล้วเราจะกำไรมากกว่าปกติ เค้าบอกว่าพอร์ตจำลองที่ใช้วิธีการนี้ได้ผลตอบแทนมากกว่าปกติถึงปีละ 5% โดยเฉลี่ย

ประมาณนี้เลยครับ  ผมทิ้งลิ้งค์ไว้ให้เผื่อใครอยากไปอ่านเอง  ใน working paper เค้าจะมี reference งานวิจัยคนอื่นๆที่ทำหัวข้อเกี่ยวข้องกันด้วย  ถ้าสนใจมากก็ไปต่อยอดอ่านเอาเองเลยครับ http://www.hbs.edu/faculty/pages/download.aspx?name=19-117.pdf

 

ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง Comment ได้เลยนะครับ

หากชอบเนื้อหา อย่าลืมกด Like & Share และ Follow เราในช่องทางต่างๆ ได้ตามนี้ 🙂

ติดตามพวกเราได้บน Facebook https://www.facebook.com/smartstockinvestment/

หรือทาง YouTube https://www.youtube.com/channel/UCXXwuZIQdWiS1OIzy0uP1fg