หุ้นที่ผมสนใจ – Invesco

Stock in my focus – Invesco

As of April 21, 2018 ราคาหุ้นอยู่ $31.06
Invesco คนทั่วไปไม่น่าจะรู้จักเพราะเป็นบริษัทบริหารจัดการกองทุนในอเมริกา แต่ด้วยว่าช่วงนี้ราคาตกลงมาพอสมควรกับว่าจริงๆก็เป็นบริษัทที่ทำได้ใช้ได้ ผมเลยเริ่มติดตามและมาพูดถึงให้ฟังครับ

invesco-logoinvescoลักษณะธุรกิจ

เป็นบริษัทบริหารจัดการกองทุน รายได้คือมาจากค่าธรรมเนียมที่ลูกค้ารายย่อยหรือสถาบันเอาเงินมาฝากไว้กับกองทุนที่บริษัทนี้เป็นคนบริหาร

รูปแบบของกองทุนที่บริษัทนี้บริหารหนักมาทาง Active ตามข้อมูล ณ สิ้นปี 2017 คิดจากเงินที่บริหารทั้งหมด (Asset under management หรือย่อว่า AUM) $937.6 billion เป็นกองทุนบริหารแบบ Active $738.6 billion และเป็นกองทุนบริหารแบบ Passive $199 billion จะเห็นว่ากองทุนแบบ Active นี่เกือบ 80% ของบริษัททีเดียว

Invesco เป็นอันดับที่ 4 ของบริษัทที่ออกกองทุน ETFs (Exchange Traded Funds) ในอเมริกา มีสินทรัพย์กองทุนอยู่ประมาณ $177 billion ใหญ่กว่าอันดับที่ 5 Charles Schwab อยู่พอสมควร แต่ห่างกับอันดับที่ 1-3 Blackrock, Vanguard และ State Street อยู่ไกลมาก

แล้วที่ผ่านมาเป็นไง

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ทำได้ดีขึ้นนาเรื่อย มีตกอยู่ 2009 ปีเดียวซึ่งก็ถือว่าปกติเพราะอยู่ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจแต่บริษัทก็มีกำไรไม่ได้ขาดทุนอะไร พูดกันตามตรงถ้าต้องไปเปรียบเทียบอัตราการเติบโตกับคู่แข่งอย่าง T. Rowe Price ที่เป็นบริษัทอันดับต้นๆของบริษัทบริหารกองทุนแบบ Active หรือแข่งกับ Blackrock อันดับหนึ่งในตลาด ETFs ก็อาจจะสู้ไม่ได้ แต่โดยรวม Invesco ก็ทำได้ไม่เลวนะ

ถ้าพูดถึงกองทุนที่ Invesco บริหาร ผลงานถึงแม้จะสู้อย่าง T. Rowe Price ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เลวนัก 75% ของกองทุนที่บริหาร วัดผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปีผลงานทำได้ดีกว่าค่ากลางผลตอบแทนกองทุนในประเภทเดียวกัน

ทำไมตอนนี้ถึงน่าสนใจ

ช่วงนี้ราคาตกลงมาจากก่อนหน้านี้พอสมควร เข้าใจว่าเหตุผลหลักๆคือ

อย่างแรกเลยกระแสกองทุนที่เป็น Passive ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะที่ผ่านมากองทุน Active ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมสูงกว่าหลายกองทุนผลตอบแทนต่ำกว่าการดัชนี S&P คนก็เลยงงว่าจะไปเสียค่าธรรมเนียมสูงๆทำไม ทำให้เงินลงทุนไหลจากกองทุนประเภท Active ไป Passive จำนวนมาก แล้วพอดี Invesco มันส่วนใหญ่เป็น Active

ตัวบริษัท Invesco เองถ้าไปพิจารณาสามเดือนแรกของ 2018 จะเห็นว่าเงินลงทุนสุทธิไหลออกจากกองทุนที่บริษัทบริหาร กองที่เป็น Passive มีเงินสุทธิไหลเข้า แต่ที่เป็น Active ไหลออกสุทธิเยอะกว่า

และช่วงนี้ความนิยมในกองทุนประเภท ETFs สูงมากขึ้นเยอะมาก ETFs ต่างจากกองทุนรวมอื่นตรงตามชื่อมันน่ะครับ Exchange Traded Funds ก็คือสามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ real-time เหมือนกับหุ้นทั่วไป ต่างจากกองทุนรวมปกติที่อาจจะซื้อหรือขายได้เฉพาะก่อนตลาดเปิดหรือตอนเย็นหลังตลาดปิดเท่านั้น ปัจจุบัน ETFs ก็มีหลากหลาย ทั้ง ETFs ที่ลงทุนในหุ้นเป็น sector ก็มี ที่ลงทุนเฉพาะในบริษัทขนาดเล็ก small cap ก็มี ช่วงหลังนักลงทุนสถาบันก็นิยมใช้ ETFs แทนการซื้อหุ้นเป็นตัวๆมากขึ้นด้วย

Invesco ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในกลุ่มที่ออก ETFs ก็จริง แต่อันดับ 4 นี่คือห่างจากอันดับ 1-3 มาก ทางผู้บริหาร Invesco เค้าก็รู้แหละว่า ETFs กำลังโต ล่าสุดก็ซื้อ Guggenheum Investments ที่ทำ ETFs มา แต่ถึงอย่างนั้นก็คือขนาดยังห่างกับผู้นำตลาดมาก ส่วนนอกอเมริกาเค้ามีซื้อ Source บริษัทที่ออก ETFs ในยุโรปด้วย

สาเหตุที่สองที่คาดว่าทำให้ราคาหุ้น Invesco ตกคือ ETFs มันแข่งกันด้วยราคาค่าธรรมเนียมค่อนข้างดุเดือด อย่างคู่แข่งอันดับ 5 Charles Schwab ก็เน้นออกกองทุน ETFs แบบธรรมดาแต่เน้นค่าธรรมเนียมต่ำมากๆ ส่วนผู้นำตลาดอย่าง Blackrock, Vanguard และ State Street ที่ขนาดใหญ่กว่ามากๆก็สามารถคิดค่าธรรมเนียมต่ำมากๆได้ง่ายกว่า Blackrock เมื่อปี 2016 เพิ่งประกาศลดค่าธรรมเนียมของ ETFs ตัวหลัก 15 กอง Vanguard นี่เน้นค่าธรรมเนียมต่ำมากอยู่แล้ว State Street ก็เพิ่งลดค่าธรรมเนียม ETFs 15 กองเมื่อช่วงตุลาคมปีที่แล้ว

ด้วยปัจจัยเหล่านี้คนเลยกังวลว่า Invesco จะเติบโตต่อไปในอนาคตอย่างไร

ส่วนตัวแล้วผมมองว่าถึงบริษัทนี้ไม่น่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่ก็ยังเชื่อว่าจะยังทำได้ใช้ได้ต่อไปในอนาคต ทางฝั่งกองทุน Active ตราบใดที่ผลการดำเนินงานของกองทุนยังทำได้ดีกว่าเฉลี่ย ผมก็เชื่อว่ากองทุนแบบ Active จะยังมีความต้องการอยู่ ช่วงต้นปีมีเงินลงทุนสุทธิไหลออกก็จริง แต่ก็น่าจะเป็นปกติเพราะตลาดหุ้นอเมริกาช่วงต้นปีที่ผ่านมาตก ก็จะมีนักลงทุนบางส่วนถอนเงินลงทุนไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น มองว่าเป็นเรื่องชั่วคราวตราบใดที่ Invesco ยังรักษาระดับคุณภาพการดำเนินงานของกองทุน ส่วนด้าน ETFs บริษัทนี้ก็คงไม่เติบโตแบบก้าวกระโดดเพราะยังห่างจากผู้นำตลาดอยู่มาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำได้แย่ลงกว่าเดิม โดยรวมก็คืออนาคตก็น่าจะโอเคแหละ

ที่ผมสนใจขึ้นมาเป็นเพราะว่าเรื่องราคาเป็นหลัก ปีล่าสุดถ้าตัดผลจากนโยบายลดภาษีออกไปกำไรต่อหุ้นเมื่อเทียบกับราคาตอนนี้อยู่ที่ 7.74% เลยทีเดียว ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับราคาของหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกัน

Disclosure

ปัจจุบันผมไม่ได้มีหุ้นใน Invesco แต่มีโอกาสที่จะลงทุนใน Invesco ในอนาคตโดยเฉพาะยิ่งถ้าราคาตกลงมาอีก
ผมเขียนบทความนี้ด้วยตัวเองและเขียนจากความเห็นส่วนตัว ผมไม่ได้รับค่าตอบแทนใดหรือมีผลประโยชน์ทางธุรกิจใดๆกับบริษัทที่ผมพูดถึงในบทความนี้