ซื้อแล้วถือตลอดกาลนานเทอญ?

อันนี้เป็นสุดขั้วอีกฝั่งหนึ่ง  ตรงกันข้ามกับสายเก็งกำไรรายวัน (Day trader)  คือการซื้อหุ้นเอาไว้แล้วถือไปตลอดโดยไม่ขาย  โดยเป็นความเชื่อว่าเป็นวิธีที่ลงทุนยังไงก็กำไร  เป็นการลงทุนแบบเน้นหุ้นพื้นฐานดีอย่างแท้จริง  แต่จริงๆแล้วมันใช่แบบนั้นหรือไม่  วันนี้ผมจะชวนคุยเรื่องนี้  ว่าสรุปการถือหุ้นยาวชั่วฟ้าดินสลายนี่ใช่วิธีที่ถูกต้องจริงหรือ

การลงทุนแบบเลือกซื้อกิจการที่ดีจำนวนหนึ่ง  ซื้อเฉลี่ยๆ  แล้วถือเก็บยาวโลดโดยไม่ต้องสนอะไรทั้งสิ้น  ต้องยอมรับว่าจริงๆก็เป็นวิธีการที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าผลลัพธ์ใช้ได้  มีสถิติย้อนหลังพิสูจน์ชัดเจนว่าโดยเฉลี่ยแล้ว  วิธีการนี้ให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก, ธนบัตรรัฐบาล, อสังหาริมทรัพย์  และการลงทุนสายเก็งกำไรระยะสั้น

แต่การที่ผลลัพธ์มันโอเคใช้ได้  ไม่ได้แปลว่ามันเป็นวิธีที่ดีที่สุด  เพราะมันมีจุดอ่อนหลักๆอยู่ดังต่อไปนี้

1. การซื้อเฉลี่ยอย่างมีวินัย ซื้อทั้งตอนที่ถูกและตอนที่แพง  ทำให้กำไรโดยรวมตกลง

โอเคล่ะ  โดยไอเดียการเฉลี่ยจะทำให้ครั้งที่เราซื้อมาแพงโดนเฉลี่ยโดยครั้งที่เราซื้อมาถูก  ที่ทำแบบนั้นเพราะวิธีการนี้เชื่อว่าเราไม่มีทางรู้ได้ว่าราคาไหนเรียกว่าแพง  ซึ่งไม่จริงซะทีเดียว  จริงอยู่ว่าเราไม่มีทางเดาราคาสูงที่สุดหรือต่ำที่สุดได้  แต่เราบอกได้ระดับหนึ่งว่าราคาแค่ไหนถึงเรียกว่าสูงเกินไป  ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยงการซื้อที่ราคาสูงเกินไป  ไม่ใช่เอาว่าเฉลี่ยสุ่มอย่างเดียว

2. ถือยาวเกินไป

เราต้องยอมรับว่ากิจการใดๆจากที่เคยเป็นธุรกิจที่ยอดเยี่ยมเติบโตอย่างรวดเร็ว  ต่อให้ขายอยู่คนเดียวไม่มีคู่แข่ง  วันหนึ่งอย่างไรมันก็ต้องโตช้าลงเพราะตลาดอิ่มตัวมากขึ้น  และวันหนึ่งมันก็อาจจะถดถอยด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป  ดังนั้นถีงแม้เราจะเคยได้ยินเรื่องคุณยายถือหุ้น SCG ตั้งแต่ IPO วันนี้กำไรเป็นหลายร้อยเท่าอะไรนั่น  ก็ต้องอย่าลืมว่ามันก็มีอีกหลายเรื่องราวที่ไม่ได้ถูกเล่า  เช่นคุณตาถือหุ้น … ตั้งแต่ IPO  แล้ววันนี้หุ้นนั้นกลายเป็นเศษกระดาษไม่มีค่าอะไร  แบบนี้ก็มีเยอะแยะ

ผมหวังว่าเราจะได้มีโอกาสฉุกคิดมากขึ้นหลังจากได้อ่านเหตุผลเหล่านี้  สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อจริงๆจากเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับการซื้อถือยาวนะ  แต่ผมอยากจะบอกว่าเราต้องตั้งสติเวลาเราฟังไอเดียเกี่ยวกับการลงทุน  ความคิดอะไรที่มีคนพูดเหมือนกันเยอะๆคนเชื่อกันทั้งประเทศก็ไม่ได้แปลว่าจะถูกต้องเสมอไป  เรื่องที่ใครพูดจะฟังน่าเชื่อถือแค่ไหนก็ไม่ได้แปลว่าจะถูกต้องเสมอไป    เรื่องที่ผมพูดก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องถูกต้องเช่นกัน  เราต้องมีสติอยู่เสมอ