การมองระยะยาวชนะมองระยะสั้น  ทั้งในช่วงสั้นและยาว

Think long-term beats short-term both short and long

 

อ่านชื่อหัวข้ออาจจะงงๆนิดนึง  แต่เข้าใจไม่ผิดแหละครับ  ผมกำลังบอกว่าลงทุนแบบมองระยะยาวมันผลตอบแทนดีกว่าไม่ใช่แค่ในระยะยาวแต่ดีกว่าแม้จะในช่วงสั้นด้วย  ซึ่งเดี๋ยวผมจะอธิบายจากประสบการณ์ผมว่าทำไมมันเป็นแบบนั้น

ก่อนไปทำการเปรียบเทียบ   เราให้คำจำกัดความก่อนจะได้เข้าใจตรงกัน

ระยะสั้นมาก  คือตั้งแต่หลักวินาที  ไปจนถึงประมาณเดือนสองเดือน

ระยะสั้น                 คือประมาณไม่กี่เดือนจนถึงปีนึง

ระยะยาว  คือเป็นหลักปีเป็นต้นไป

short-term-long-term

การมองระยะสั้น  คือความพยายามจะทำกำไรในช่วงสั้น  โดยพยายามคาดเดาพฤติกรรมของคนอื่นเป็นหลัก  เช่น ดู Moving Average, Momentum, RSI  และอื่นๆ

การมองระยะยาว  คือความพยายามจะทำกำไรในช่วงยาว  โดยพยายามพิจารณาและประเมินมูลค่าธุรกิจเป็นหลัก  เช่นอ่านรายงานประจำปี, ดู Profit Margin, Return on Equity  และอื่นๆ

ทีนี้เรามาทำความเข้าใจก่อน  ราคาของหุ้นในตลาดเป็นผลมาจาก 2 ปัจจัยหลัก

  1. ความสามารถในการทำกำไรของตัวธุรกิจ เพราะหุ้นคือชิ้นส่วนความเป็นเจ้าของของธุรกิจ  ดังนั้นถ้ากิจการดีเติบโต  มีกำไรดีขึ้น  จ่ายปันผลมากขึ้น  ราคาของหุ้นก็ต้องสูงขึ้นเป็นธรรมดาเพราะคนอยากเป็นเจ้าของมากขึ้น  แต่ถ้ากิจการแย่ลงเรื่อยๆ  ขาดทุนปีแล้วปีเล่า  ราคาของหุ้นก็จะต่ำลงเป็นธรรมดาเพราะคนก็ไม่อยากเป็นเจ้าของ
  2. มุมมองของนักลงทุนที่มีต่อหุ้นนั้น ซึ่งก็มาได้จากหลายเรื่องยำรวมกัน  อาจเป็นมุมมองเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจ  หรืออาจเป็นมุมมองเรื่องเศรษฐกิจมหภาค  หรืออาจเป็นเรื่องปัจจัยภายนอกที่จริงๆไม่มีผลต่อธุรกิจแต่มีผลต่ออารมณ์คนในตลาด

ระยะสั้นมาก

หุ้นในช่วงระยะสั้นมาก  ขยับขึ้นลงด้วยปัจจัยทางจิตวิทยาของคนมากกว่าเรื่องของธุรกิจ  เพราะระยะเวลามันสั้นเกินไปที่บริษัทจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรได้นักหนา

การมองระยะยาว  ไม่มีประโยชน์อะไรกับการลงทุนระยะสั้นมากเลย  เพราะต่อให้เราประเมินมูลค่าในอนาคตธุรกิจถูกต้อง  ระยะเวลาที่สั้นมากยังไงตัวธุรกิจก็จะยังไม่เปลี่ยนแปลง  และดังนั้นที่เราเดาถูกก็จะยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์  และดังนั้นราคาหุ้นในระยะสั้นมากก็จะขึ้นหรือลงไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับมูลค่าของธุรกิจเลย

การมองระยะสั้น  ในทางทฤษฎีเหมือนน่าจะได้ผล  แต่สุดท้ายในภายหลังก็มีงานวิจัยออกมาว่าไม่ได้ผลเท่าไหร่  เพราะตลาดช่วงระยะสั้นมาก  ขึ้นหรือลงโดยไม่มีเหตุผลอะไรมากไปกว่าจิตวิทยาคนล้วนๆ  และจิตวิทยาคนก็โดนปัจจัยภายนอกอะไรก็ไม่รู้ซึ่งหลายครั้งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหุ้นนั้นเลยมากระทบได้อยู่ตลอดเวลา  ดังนั้นวิธีมองระยะสั้นที่ดูว่าที่ผ่านมาคนทำอะไรก็เลยไม่ค่อยได้ผล  เพราะต่อให้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วคนตกใจหุ้นตก  วันพรุ่งนี้คนก็อาจจะเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นดีใจหุ้นขึ้นก็ได้  ปัจจัยที่เราไม่มีทางเดาได้มันเยอะไปหมด

Conclusion:  มองระยะยาว        FAIL

มองระยะสั้น          FAIL

ระยะสั้น

หุ้นในช่วงระยะสั้น  โดยภาพรวมแล้วเคลื่อนที่ตามผลประกอบการแต่ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่  ข่าวลือหรืออารมณ์ของตลาดยังมีผลกระทบได้เยอะอยู่  เป็นไปได้ว่าจะมีธุรกิจบางตัวที่ทำได้ดีขึ้นแต่ราคาไม่ปรับขึ้นตามเพราะคนยังไม่ให้ความสนใจหรือบางทีเชื่อว่าอนาคตจะแย่ลง  และก็จะมีธุรกิจบางตัวที่ทำได้แย่เหมือนเดิม  แต่ราคาดันสูงขึ้นเพราะคนมีทัศนคติที่ดีกับหุ้นนั้นด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง

การมองระยะยาว  มีประโยชน์บ้าง  ถ้าเราประเมินมูลค่าในอนาคตธุรกิจได้ถูกต้อง  ก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นตามคุณภาพของตัวธุรกิจภายในปีเดียว  แต่ไม่เสมอไป  เพราะบางครั้งผลลัพธ์แค่ปีเดียวอาจจะยังไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ให้คนรู้ว่าตัวธุรกิจมันดีจริง  หรือบางทีก็อาจเป็นหุ้นที่นอกความสนใจไม่ค่อยมีใครพูดถึงคนอาจไม่ค่อยรู้จัก

การมองระยะสั้น  ก็ดูเหมือนยังไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรเท่าไหร่  ปัญหาคือเนื่องจากเครื่องมือที่ใช้ส่วนใหญ่มันเป็นความพยายามเดาพฤติกรรมของมนุษย์  พอช่วงเวลายิ่งนาน  เหตุการณ์ในอดีตที่เอามาใช้เดาก็ยิ่งเกี่ยวข้องน้อยลงไปเรื่อยๆ

Conclusion:  มองระยะยาว        PARTIALLY PRACTICAL

มองระยะสั้น          FAIL

ระยะยาว

หุ้นในระยะยาว  ราคาจะขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทล้วนๆ  ถ้ากิจการมีกำไรเยอะขึ้น  จ่ายปันผลเยอะขึ้น  คนก็อยากได้มากขึ้น  และราคาก็สูงขึ้น  ทัศนคติหรือมุมมองที่มีต่อหุ้นในตอนนี้จะเลวร้ายแค่ไหนก็ไม่มีผลในเวลานั้นละ  เพราะผลประกอบการมันถูกพิสูจน์จริงแล้วว่าออกมาดีหรือไม่ดี

การมองระยะยาว  มีประโยชน์อย่างยิ่ง  ถ้าเราประเมินมูลค่าในอนาคตธุรกิจได้ถูกต้อง  เงินลงทุนที่ลงไปก็จะเติบโตไปพร้อมกับบริษัท  ถึงเวลานั้นจะขายแล้วกำไรจากราคาขาย  หรือจะถือไว้ต่อไปกินปันผลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็ไม่เสียหายตรงไหน

การมองระยะสั้น  ไม่มีประโยชน์อะไรกับการคาดการณ์เรื่องหลายปีในอนาคตข้างหน้า  และที่ผ่านมาก็ไม่เห็นมีใครทำกันนะ

Conclusion:  มองระยะยาว        PRACTICAL

มองระยะสั้น          FAIL

จะสังเกตว่าการมองระยะยาวยังไงก็ได้เปรียบกว่าการมองระยะสั้นแม้กระทั่งในช่วงสั้น  เหตุผลหลักคือเพราะในระยะสั้นราคาหุ้นมันมีปัจจัยมากระทบได้เยอะแยะไปหมด  จนวิธีอะไรมันก็ไม่ได้ผล  ในขณะที่การมองระยะยาวถึงแม้ว่ายังไงเราก็ไม่ได้คาดการณ์ได้ 100% ก็ยังดีกว่าเดาอะไรไม่ได้เลย