2 ปีผ่านมา มุมมองหุ้นจีนเหมือนเดิมมั้ย ?

2 ปีผ่านมา มุมมองหุ้นจีนเหมือนเดิมมั้ย ?

ตอนนี้เรามีคอร์ส Workshop ออนไลน์ด้วย
สามารถเข้าไปลงทะเบียนทดลองเรียนฟรีได้ที่

WORKSHOP เรียนหุ้นจากพื้นฐานสู่มือโปร

ผม recap นะครับ ก่อนหน้านู้นเลยผมเป็นคนนึงเชียร์การลงทุนในหุ้นจีน แล้วส่วนตัวในเวลานั้นก็ซื้อหุ้นจีนด้วยนะ หลักๆเพราะเราเห็นประเทศก็เติบโตได้ดี เริ่มมีเทคโนโลยีหรืออุตสาหกรรมที่เค้าเป็นผู้ชนะระดับโลก แล้วราคาหุ้นก็ค่อนข้างถูกถ้าดูจาก P/E ภาพรวม ติดอย่างเดียวคืออ่านไม่ค่อยออก หาข้อมูลยาก ดังนั้นในเวลานู้นเลยบอกว่าซื้อเป็น ETF ไปเลยดีกว่า

ทีนี้ในภายหลังประมาณ 2023 ผมเปลี่ยนใจเรื่องหุ้นจีน และส่วนตัวก็หยุดดูหุ้นจีนนับแต่นั้น ทั้งที่ตอนนั้นหุ้นจีนมันตกไปเยอะมาก และปัจจุบันผมก็ยังมีมุมมองเหมือนเดิมคือผมไม่สนใจหุ้นจีนครับ ถ้าจำเป็นต้องซื้อหุ้นจีนจริงๆก็ยังยืนยันว่าต้อง China tech เท่านั้นครับ

สาเหตุที่ไม่สนใจหุ้นจีนจากวันนั้นมาวันนี้ยังเหมือนเดิมคือ

1. การเติบโตของกำไรไม่ดี และประเด็นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ในอดีตผมไม่ได้มีข้อมูลนี้ แต่ตอนที่ทำงานที่ Lief Capital มันมี Bloomberg ครับ แล้วก็มีโอกาสเห็นว่าภาพรวมหุ้นจีนจะดัชนีไหนการเติบโตของกำไรก็ค่อนข้างแย่ CSI 300, Shanghai Composite, Hang Seng, etc. แย่ในที่นี้คือประมาณ 4% ต่อปี ดีกว่าไทยแน่ๆเพราะไทยประมาณ 0-1% แต่ก็ถือว่าต่ำมากจนผิดสังเกตเมื่อมองว่าเศรษฐกิจจีนเติบโตดีกว่านั้น และปกติหุ้นที่อยู่ในตลาดมันควรจะเป็นบริษัทที่เข้มแข็งและโตดีกว่าภาพรวมไม่ใช่หรือ

นอกเหนือจากการเติบโตกำไรภาพรวม เรามีการแยกรายอุตสาหกรรมดู เช่น ของใช้จำเป็น, สินค้าฟุ่มเฟือย, การเงิน, อุตสาหกรรม, เทคโนโลยี, ฯลฯ และสิ่งที่เราพบคือมันแย่หมดทุกกลุ่มยกเว้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ดีโดดเด่นมาก ดังนั้นจึงเป็นที่มาว่าทำไมผมถึงบอกว่าถ้าต้องถือหุ้นจีน ถือกลุ่ม China Tech เท่านั้นครับ

แต่แล้วทำไมหุ้นจีนภาพรวม EPS ถึงไม่โตเลยล่ะ ตอนนั้นผมก็งงเหมือนกัน มาตอนนี้ผมมีโอกาสอ่านหนังสือ The New China Playbook ของ Keyu Jin มา

ในหนังสือเค้าก็อธิบายว่าทำไมตลาดหุ้นจีนถึงผลตอบแทนแย่ไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจประเทศที่เติบโต สาเหตุคือ
• ตลาดหุ้นเริ่มต้นมาจากที่รัฐบาลจีนต้องการให้เป็นแหล่งระดมทุนของ SOE ที่มีปัญหา แล้วรัฐบาลไม่อยากใช้เงินตัวเองอุ้ม
• การ list ในตลาดหุ้นจีนทำได้ยาก มีกระบวนการที่นาน และต้องมีประวัติมีกำไรอยู่แล้ว ทำให้บริษัทที่ list ได้ส่วนใหญ่โตเต็มที่แล้ว ไม่ใช่บริษัทที่มีการอัตราการเติบโตสูง
• บริษัทจีนเองก็มีแนวโน้มจะลงทุนไม่มีประสิทธิภาพ คือเห็นอะไรมีแนวโน้มเติบโตกระโดดเข้าไปหมดไม่ว่าจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับธุรกิจตัวเอง

2. มีการแทรกแซงจากภาครัฐเป็นระยะ ความเสี่ยงเรื่องนี้มาไม่บ่อย แต่มาทีก็ถึงกับหายนะบางธุรกิจได้

3. ถ้าเรามองประเทศจีนเป็น Growth Market และมองว่าเป็นการลงทุนกระจายความเสี่ยงจาก U.S. มันก็มีทางเลือกอื่นที่ประเทศวุ่นวายน้อยกว่านี้และมีการเติบโต เช่น อินเดีย

ดังนั้นโดยสรุปคือในเมื่อภาพรวมการเติบโตของกำไรไม่ได้สูง และมีความเสี่ยงเพิ่มเติมจากประเทศอื่นตรงที่รัฐบาลแทรกแซงได้ แล้วก็มีตัวเลือกที่อื่น ทั้งหมดนี้ก็เลยทำให้ไม่รู้จะไปลงทุนหุ้นจีนทำไม ช่วงที่ผ่านมายิ่งหุ้นฟื้นขึ้นมาก็ยิ่งไม่น่าสนใจมากขึ้นไปใหญ่สำหรับผมครับ